รูปแบบการควบคุมการสั่งใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในโรงพยาบาลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล, ยาปฏิชีวนะ, กลยุทธ์บทคัดย่อ
โรงพยาบาลเชียงยืนได้เข้าร่วมโครงการการใช้ยาอย่างสมเหตุผล แต่พบว่ามีผลตัวชี้วัดในโครงการไม่ผ่านเกณฑ์กำหนดของโครงการมาตลอด การศึกษานี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเปลี่ยนแปลงจากการแทรกแซง (interventions) การสั่งใช้ยาปฏิชีวนะของแพทย์โรงพยาบาลเชียงยืนในการรักษา 2 กลุ่มโรคคือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โดยใช้เครื่องมือเป็นแบบเก็บข้อมูลการสั่งใช้ยาของแพทย์ร่วมกับการส่งออกข้อมูลการสั่งใช้ยาของแพทย์ในรูปแบบแฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เปรียบเทียบผลก่อนการแทรกแซงการสั่งใช้ยากับผู้ป่วยและหลังการให้การแทรกแซงในกลุ่มโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โดย 6 เดือนแรก มีผู้ป่วย 868 รายและ 6 เดือนหลังมีผู้ป่วย 973 ราย พบการสั่งใช้ยาปฏิชีวนะของแพทย์ในโรงพยาบาลเชียงยืนเปลี่ยนแปลงคือจากร้อยละ 51.2 ลดลงเป็นร้อยละ 33.0 และในกลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน 6 เดือนแรก มีผู้ป่วย 1,783 รายและ 6 เดือนหลังมีผู้ป่วย 2,467 ราย จากร้อยละ 43.9 ลดลงเป็นร้อยละ 28.0 มูลค่าการใช้ยาปฏิชีวนะเปลี่ยนแปลงจาก 661,956.41 บาท เป็น 501,010.74 บาท ลดลง 160,945.67 บาท ในกลุ่มโรค-อุจจาระร่วงเฉียบพลันยาที่ใช้มากที่สุดคือ norfloxacin มูลค่า 10,218 บาท หรือร้อยละ 79.0 และกลุ่มโรคติดเชื้อ-ทางเดินหายใจส่วนบน ยาที่ใช้มากสุดคือ amoxicillin มูลค่า 207,164 บาท หรือร้อยละ 25.8 โดยมีการแทรกแซงหลายรูปแบบได้แก่ นโยบายผู้บริหาร การนำเสนอสารสนเทศในการสั่งใช้ยาของแพทย์แต่ละคนหรือภาพรวมโรงพยาบาล การตรวจสอบและดูผลตอบกลับผ่านหลายช่องทาง การประชุมกลุ่มย่อย ประชุมคณะกรรมการ-เภสัชกรรมและการบำบัดและการใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (social media) นำเสนอด้วยวิชาการที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.