เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์สมองในโรงพยาบาลฉะเชิงเทรา: ข้อบ่งชี้และการตรวจพบ
คำสำคัญ:
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง, Glasgow Coma Scale (GCS), ข้อบ่งชี้และการตรวจพบบทคัดย่อ
มีการส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (Computed tomography scans of brain: CT brain) ในโรง-พยาบาลเมืองฉะเชิงเทรามีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี การศึกษาแบบย้อนหลังเชิงพรรณนานี้รวบรวมข้อมูล เพศ อายุผู้ป่วย การบันทึกระดับ Glasgow Coma Scale (GCS) อาการ ข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจและผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT brain) แล้ววิเคราะห์หาปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อผลตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ผู้ป่วยที่ได้รับการส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองทั้งหมด 596 รายตั้งแต่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายนพ.ศ. 2551 อายุเฉลี่ย 49.80, 22.0 ปี ผู้ป่วยชายร้อยละ 5773 ร้อยละ 60.2 ส่งตรวจโดยแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (intern) จำแนกผู้ป่วยเป็น 4 กลุ่มได้แก่กลุ่มที่ติดตามการรักษา (follow up) กลุ่มที่ส่งจากกลุ่มงานจิตเวช กลุ่ม อุบัติเหตุ (trauma) และกลุ่มไม่ใช่อุบัติเหตุ (non-trauma) ผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ใช่อุบัติเหตุมีจำนวนมากที่สุด (69.4%)การพบผลบวกเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองไม่แตกต่างกันในกลุ่มอุบัติเหตุ (61.2%) และกลุ่มไม่ใช่อุบัติเหตุ (63.6%อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกในกลุ่มไม่ใช่อุบัติเหตุ (54.8, 20.5 ปี) สูงกว่าในกลุ่มอุบัติเหตุ (31.8, 17.8 ปี) การบันทึก GCS ในกลุ่มอุบัติเหตุ (90.3%) มากกว่าในกลุ่มไม่ใช่อุบัติเหตุ (68.6%) ระดับ GCS มีความสัมพันธ์กับผลบวกเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ผู้ป่วยภาวะเลือดออกในศีรษะ (intracranial hematoma) มีค่าเฉลี่ย CS ต่ำกว่าผู้ป่วยสมองขาดเลือด (infarct) ผู้ป่วยอุบัติเหตุ และไม่ใช่อุบัติเหตุ จำนวน 370 ราย (เฉพาะที่มีบันทึก GCS และอายุมากกว่า 4 ปี) มีผลบวกเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองร้อยละ 66.2 ในจำนวนนี้ร้อยละ 41.2 มีระดับ GCS เท่ากับ 15 อาการ ข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจที่พบมากในกลุ่มนี้ได้แก่ การมีบาดูแผล ที่ศีรษะ อาการปวดศีรษะ การหมดสติ (loss of conscious : LOc) จำเหตุการณ์ไม่ได้ (nesia) รวมทั้งการตรวจพบกล้ามเนื้ออ่อนแรง (sign of motor deficency) ดังนั้นควรนำผู้ป่วยที่มี GcS น้อยกว่า 15 ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และนำอาการ ข้อบ่งชี้เฉพาะ รวมทั้งการตรวจพบกล้ามเนื้ออ่อนแรง มาพิจารณาในการส่งผู้ป่วย GCS เท่ากับ 15 ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.