สถานการณ์ของชนิดสารเสพติดที่ใช้ในกลุ่มผู้เสพในเขตบริการสุขภาพที่ 3 พ.ศ. 2552 - 2557

บทคัดย่อ

การระบาดของสารเสพติดที่แพร่หลายอยู่ในประเทศไทยขณะนี้นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งการทำลายความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลาย ศักยภาพในการดำรงชีวิตและอนาคตของประเทศ เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงของยาเสพติดแต่ละชนิดที่ใช้ในกลุ่มผู้เสพในเขตบริการสุขภาพที่ 3 ผู้ศึกษาได้รวบรวมข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์จากการนำส่งตัวอย่างจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานพยาบาล สถานศึกษา สำนักงานคุมประพฤติ/เรือนจำ/สถานพินิจ และจากหน่วยงานอื่นๆ ในเขตบริการสุขภาพที่ 3 นำส่งตรวจพิสูจน์ยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 3 นครสวรรค์ โดยทำการศึกษาย้อนหลังในช่วงปี พ.ศ.2552 ถึง พ.ศ. 2557 รวมจำนวนทั้งสิ้น 13,564 ตัวอย่างตรวจพบยาเสพติดจำนวน 11,915 ตัวอย่าง (ร้อยละ 87.84) พบว่าช่วงอายุที่มีการใช้สารเสพติดมากที่สุดคือ ช่วงอายุ 21 - 30 ปี คิดเป็นร้อยละ 38.84 และรองลงมาคือช่วงอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 คิดเป็นร้อยละ 26.03อาชีพที่มีการใช้สารเสพติดมากที่สุดคือ อาชีพรับจ้าง คิดเป็นร้อยละ 64.98 รองลงมาคือกลุ่มของเกษตรกรรม ร้อยละ 5.82 ชนิดของยาเสพติดที่ใช้มากที่สุดคือ ยาบ้า คิดเป็นร้อยละ 99.17 รองลงมาคือ กัญชา คิดเป็นร้อยละ 0.57 ข้อมูลนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปราบปราบยาเสพติดสำหรับการแก้ไขเกี่ยวกับยาเสพติด การเฝ้าระวัง รวมถึงการสอดส่องดูแลของประชาชนไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดต่อไป