ภาวะความดันเลือดปอดสูงในทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลปทุมธานี

บทคัดย่อ

ภาวะ PPHN เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญของทารกคลอดครบกำหนดและเกินกำหนดในโรงพยาบาลปทุมธานี ผู้วิจัยทำการศึกษาหาอัตราป่วย การรักษา ผลการรักษาและอัตราเสียชีวิต โดยศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนาและวิเคราะห์จากการทบทวนเวชระเบียนของทารกแรกเกิดที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะPPHN ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2548 ถึงมกราคม 2551 ในเชิงพรรณนาใช้ Fisher's exact test และ Mann-Whitney U test การศึกษาพบทารกที่วินิฉัยว่ามีภาวะ PPHN จำนวน 23 ราย นำมาศึกษา 18 ราย ส่งต่อไปสถาบัน สุขภาพเด็กมหาราชินี 5 ราย คิดเป็นอุบัติการ 2.23 ราย ต่อทารกเกิดมีชีพ 1,000 ราย อัตราตายร้อยละ 66.11ภาวะสูดสำลักขี้ทา (meconium aspiration syndrome) เป็นโรคร่วมที่พบบ่อยที่สุด 13 ราย (ร้อยละ 72.22)รองลงมาภาวะขาดออกซิเจนระหว่างการคลอด (birth asphyxia) 11 ราย (ร้อยละ 61.11) ทารกทุกราย ช่วยหายใจด้วย conventional mechanical ventilation (CMV) ค่าเฉลี่ย (A-a) DO₂ เมื่อเริ่มต้นวินิจฉัย 625.19, SD 25.72 มม.ปรอท ค่าเฉลี่ย peak inspiratory pressure (PIP) 25.72, SD 4.46 ซม.น้ำ posi- tive end expiratory pressure 5.06, SD 1.21 a. ll intermittent mandatory rate (IMV) 87.78, SD 21.71 ครั้ง/นาที ระยะเวลา ที่เกิด PPHIN เฉลี่ย 21, SD 10.90 ชม. การรักษา ใช้ NSS, FFP ในการเพิ่มปริมาณน้ำเลือด ใช้ dopamin และ dobutex เพิ่มความดันเลือดและใช้ fentanyl และ dormicum เพื่อลดอาการเจ็บปวดและทำให้ทารกสงบ ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดบวม ชักภาวะปอดเรื้อรัง อากาศในทรวงอก ระยะเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะเวลาให้ออกซิเจนและระยะเวลานอนโรงพยาบาลไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระหว่างกลุ่มที่รอดชีวิตและเสียชีวิต