ที่นอนลมที่ผลิตจากถุงน้ำยาล้างไตเพื่อป้องกันแผลกดทับ
คำสำคัญ:
นวัตกรรมที่นอนลมจากถุงน้ำยาล้างไต, แผลกดทับบทคัดย่อ
แผลกดทับเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในผู้ป่วยติดเตียงหรือสูญเสียความรู้สึก ผู้พิการและผู้สูงอายุ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ครอบครัว และบุคลากรในทีมสุขภาพ การดูแลเพื่อป้องกันแผลกดทับเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวด การติดเชื้อ ความเจ็บป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนลดภาระการดูแลของครอบครัว และแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการดูแลรักษาและการพยาบาลผู้ป่วย ซึ่งการดูแลเพื่อป้องกันแผลกดทับควรเป็นการปฏิบัติบนพื้นฐานของความรู้และข้อมูลเชิงประจักษ์ที่อธิบายได้ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และความรู้จากการสังเคราะห์งานวิจัยเพื่อที่จะได้มีความเข้าใจอย่างชัดเจนอันจะส่งผลถึงวิธีการดูแลที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบริบทที่เกิดขึ้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่นอนลมที่ทำจากถุงน้ำยาล้างไต CAPD เพื่อใช้ป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยที่เสี่ยง เปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ใช้ที่นอนปกติในชุมชนอำเภอเซกา จังหวัดบึงภาพโดยเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มมีแผลกดทับ 32 ราย และกลุ่มไม่มีแผลกดทับ 150 ราย ทำการศึกษาระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2555 ถึงมกราคม 2557 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปได้แก่ อายุ การวินิจฉัยโรค น้ำหนัก ส่วนสูง ระยะเวลาในการใช้ที่นอนลม (2) แบบบันทึกการเกิด แผลกดทับ ได้แก่การเกิดแผลกดทับ จำนวนและระดับของแผลกดทับ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ป่วยและญาติต่อนวัตกรรม ที่นอนลม (4) แนวปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยเพื่อป้องกันแผลกดทับและแผ่นพับ (5) ที่นอนลมที่ทำจากถุงน้ำยาล้างไตผลจากศึกษาพบว่า กลุ่มที่ไม่มีแผล ผู้ป่วยใช้ที่นอนลม 128 ราย ไม่เกิดแผล ร้อยละ 100.0 ผู้ป่วยไม่ใช้ที่นอนลม 22ราย เกิดแผล 17 ราย (ร้อยละ 77.3) และเมื่อเปรียบเทียบ กลุ่มมีแผลกดทับ 32 ราย ใช้ที่นอนลมแล้ว แผลระดับ 1-3 มี 27 รายแผลหายทุกราย ร้อยละ 100.0 แผลระดับ 4 มีจำนวน 5 ราย อาการดีขึ้น 2 ราย แผลหายร้อยละ 40.0 จากผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า นวัตกรรมที่นอนจากถุงน้ำยาล้างไต สามารถใช้ป้องกันแผลกดทับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อแผลกดทับที่บ้านได้ โดยใช้ร่วมกับแนวปฏิบัติในการป้องกันแผลกดทับ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

