การพัฒนาถุงรองรับน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร โรงพยาบาลศรีสะเกษ

บทคัดย่อ

ผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการใส่สาย Nasogastic (NG) เพื่อระบายลมและน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร โดยต่อลงถุงพลาสติกที่ใช้กันทั่วไป มักพบปัญหาการรั่วซึมเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า เกิดกลิ่นรบกวน เด็กไม่สามารถเล่นหรือทำกิจกรรม ต่าง ๆ ได้ ปริมาตรของถุงพลาสติก สภาพถุงย่น การสังเกตและการบันทึกของเหลวเป็นการประมาณการโดยไม่มี scale เป็นตัวชี้วัด ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนาถุงใส่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วยและญาติ เจ้าหน้าที่ โดยทำการศึกษาในช่วงเดือนตุลาคม - มีนาคม 2557 ในผู้ป่วยที่ได้รับการใส่สาย NG ต่อลงถุง จำนวน 20 ราย และให้ผู้ป่วยและญาติ เจ้าหน้าที่ ตอบแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจ ทั้งหมด 20 ราย ใช้สถิติความถี่และร้อยละในการประเมินผล ผลการทดลองพบว่า การใช้ถุงใส่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารแบบใหม่ไม่พบการรั่วซึมหกเลอะที่นอน ผู้ป่วยสามารถเล่นและทำกิจกรรมได้ สามารถบอกปริมาณ content ได้ถูกต้องร้อยละ 100. 0 ผู้ป่วยและญาติพึงพอใจต่อการใช้ร้อยละ 95.0 เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลมีความพึงพอใจ ร้อยละ 90.0 ถุงแขวนแบบใหม่ช่วยไม่ให้หกเลอะ เด็กสามารถทำกิจกรรมได้ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสังเกตและบันทึกปริมาณ gastic content โดยมี scale บอกชัดเจน แต่พบปัญหาถุงใส่ NG content มองเห็น content ไม่สวยงาม จึงได้พัฒนาเป็นกระเป๋าเพื่อใส่ถุงรองรับ gastic content ผู้ป่วยและญาติทุกคนมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่มีข้อจำกัดคือ การต่อสาย NG เบอร์ 8 เข้ากับถุงเนื่องจากรูถุงรองรับ gastic content กว้าง ต้องแก้ปัญหาโดยการพันสายไว้หลายรอบ ทำให้แกะยากเหมือนเดิม และสาย NG สั้นเวลานอนผู้ป่วยต้องนอนชิดขอบเตียงด้านที่แขวนถุงรองรับ gastic content ซึ่งควร มีการพัฒนาต่อไป