กระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบงาน ด้านการทำลายเชื้อและทำให้ปราศจากเชื้อ ในเครือข่ายบริการปฐมภูมิ

บทคัดย่อ

ความสะอาดปราศจากเชื้อเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ จากการนิเทศงานของคณะกรรมการเครือข่ายบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลพะเยา พบปัญหาในระบบงานด้านการทำลายเชื้อและทำให้ปราศจากเชื้อ จึงนำมา สู่การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและพัฒนาระบบงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบงานด้านการทำลายเชื้อและทำให้ปราศจากเชื้อเครือข่ายบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลพะเยาเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบวิจัยและพัฒนา ทดลองกลุ่มเดียวแบบวัดซ้ำกลุ่มประชากร คือพยาบาลผู้รับผิดชอบกำกับงาน infection control บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการทำลายเชื้อและทำให้ปราศจากเชื่อและพนักงานบันทึกข้อมูลของโรงพยาบาล-ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั้งหมด 22 แห่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2558 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาแสดงผลเป็นค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างของระดับคะแนนก่อนและหลังการอบรมด้วย Paired t-test ผลการวิจัยพบว่าการพัฒนาบุคคลากรผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติครบทุกคน ภายหลังการอบรมมีคะแนนเฉลี่ย 84.23+1.71 - 86.34+1.91 คะแนนก่อนและหลังการอบรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ p<0.001 การประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรฐานการทำลายเชื้อและทำให้ปราศจากเชื้อดีเด่น ประเมินโดยพยาบาลพี่เลี้ยงได้ร้อยละ 36.36 และประเมินจากคณะกรรมการนิเทศเครือข่ายได้ร้อยละ 45.45 ผลการพัฒนาระบบงานผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 90.45 ผลการทำ spore tes ได้ร้อยละ 100.00 จากการส่งต่อผู้ป่วยดูแลแผลผ่าตัดแบบเย็บปิดที่ รพ.สต. ในปี 2558 ไม่พบแผลติดเชื้อร้อยละ 99.53ผลการสุ่มเพาะเชื้อชุดอุปกรณ์ปราศจากเชื้อผลเป็นลบร้อยละ 100.00 เกิดนวัตกรรมชุดทำแผลที่บ้านและนวัตกรรมเรือง "packing สวยและปลอดภัยด้วยมือเรา" ผลการศึกษาดูงานจากสถานบริการ รพ.สต. ต้นแบบ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากสถานที่จริง ข้อค้นพบนี้ชี้นำว่าควรมีการฟื้นฟูองค์ความรู้แก่บุคลากรทุกปี การจัดทำคู่มือ การจัดระบบสื่อสาร ช่วยเหลือกัน พนักงานใหม่ต้องผ่านการอบรมที่ศูนย์จ่ายกลางก่อนไปปฏิบัติงานจริงที่ รพ.สต. การคืนข้อมูลแก่ผู้บริหารการทำงานเป็นทีม และการนิเทศงานเครือข่ายเป็นแบบพี่ช่วยน้อง ก่อเกิดความผูกพันรักใคร่เข้าใจบริบทของกันและกัน มีผลสู่การเชื่อมโยงบริการไร้รอยต่อทุก รพ.สต. เกิดวัฒนธรรมคุณภาพด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืน