เปรียบเทียบระดับกรดทรานส์ ทรานส์มิวโคนิกในปัสสาวะระหว่างกลุ่มผู้ประกอบอาชีพริมถนนและกลุ่มสำนักงาน ในเขตมาบตาพุด จังหวัดระยอง

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ครั้งนี้เพื่อศึกษาเปรียบเทียบกรดทรานส์ ทรานส์ มิวโคนิกในปัสสาวะระหว่างกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ ริมถนนและกลุ่มสำนักงานในเขตมาบตาพุด จังหวัดระยอง กลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน ประกอบด้วยกลุ่มศึกษา (พนักงานเติมน้ำมัน ตำรวจราจร คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และแม่ค้าปิ้งย่างริมถนน) จำนวน 80 คน กลุ่มควบคุม (เจ้าหน้าที่สำนักงาน) จำนวน 20 คน เก็บข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์และทางห้องปฏิบัติการตรวจวัดระดับกรดทรานส์ทรานส์ มิวโคนิกในปัสสาวะเป็นเมแทบอไลต์ของสารเบนซีน ระหว่างก่อนและหลังทำงาน ใช้สถิติพรรณนาและอนุมาน Wilcoxon signed ranks test และ Mann-Whitney U-test ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มศึกษาประกอบด้วยพนักงานเติมน้ำมัน ตำรวจจราจร คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และแม่ค้าปิ้งย่างริมถนนมีค่าเฉลี่ยเรขาคณิตของกรดทรานส์ทรานส์มิวโคนิกในปัสสาวะก่อนเริ่มงานเท่ากับ 1.392±66.681, 0.158±22.275, 0.560±48.852, 0.035±1.000 4g/g Cr ตามลำดับ และกลุ่มควบคุมเท่ากับ 0.035‡1.000 ug/g Cr หลังเลิกงานเท่ากับ 2.631±86.141, 0.402±46.887, 1.564±50.349, 0.330±34.834 µg/g Cr ตามลำดับ และกลุ่มควบคุมเท่ากับ 0.06+6.769 µg/g Cr ผลการเปรียบเทียบ ระหว่างก่อนและหลังการทำงานของแม่ค้าปิ้งย่างริมถนนมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุมพบว่าพนักงานเติมน้ำมัน คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีปริมาณกรดทรานส์ ทรานส์มิวโคนิกในปัสสาวะแตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ดังนั้น กลุ่มผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ควรได้รับการประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการเกิดโรคในการทำงาน ควรตรวจสุขภาพเฝ้าระวังสารเบนซีนในทุกปี และหาเวลาพักให้ห่างจากริมถนน