ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จั่งหวัดสุพรรณบุรี

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี ประชากรที่ศึกษาเป็นบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จำนวน 1,231 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยสถิติไค- สแควร์ Fisher's Exact test และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า บุคลากรโรงพยาบาลเป็นหญิง ร้อยละ 78.6 อายุเฉลี่ย 39.3 ปี ประมาณครึ่งหนึ่งจบระดับปริญญาตรี ระยะเวลาทำงานในโรงพยาบาลเฉลี่ย 13.7 ปี เกือบ 1ใน 4 มีโรคประจำตัว และกว่า 1 ใน 4 เคยบาดเจ็บหรือประสบอุบัติเหตุในการทำงาน สิ่งคุกคามสุขภาพ 2 เรื่องที่อยู่ในระดับไม่ปลอดภัยได้แก่ ต้องทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยและเชื้อโรค และต้องนั่ง ยืน หรือเดินอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน บุคลากรมีพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับปานกลางมากที่สุดร้อยละ 64.6 รองลงมา ระดับไม่ดีร้อยละ 21.4 และระดับดี ร้อยละ 14.1 เพศ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง สภาวะสุขภาพ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อายุ ระยะเวลาทำงานในโรงพยาบาล และชั่วโมงการทำงานต่อวันมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001(P=0.333, P=0.344 และ p=0.207 ตามลำดับ) การได้รับสิ่งคุกคาม สุขภาพมีความสัมพันธ์เชิงลบกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 (p=-0.198) ผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะ ผู้บริหารของโรงพยาบาลควรมีนโยบายสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพด้านการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย กิจกรรมคลายเครียด จัดกิจกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาทางด้านการยศาสตร์ให้แก่บุคลากร ปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อม โดยจัดระบบระบายอากาศ ที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการสนับสนุนให้สวมหมวกกันน็อกหรือคาดเข็มขัดนิรภัยขณะ ขับขี่ยานยนต์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลทั่วไป