การศึกษาพาหะนำโรคและอัตราการติดเชื้อ โรคสัตว์สู่คนที่มีหนูเป็นรังโรค บริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
คำสำคัญ:
หนู, อัตราการติดเชื้อ, ภาพโรค, สครับไทฟัส, มิวรีนไทฟัส, เลปโตสไปโรซิส, ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองบทคัดย่อ
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชนิด จำนวนของพาหะนำโรค และอัตราการติดเชื้อโรคสัตว์สู่คนที่มีหนูเป็นรังโรคภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ดำเนินการโดยการวางกรงดักหนู แล้วทำให้สลบ เก็บตัวอย่างเลือด ไต ม้าม ปอดและหัวใจ และตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำ และสางหมัดหนูเก็บปรสิตภายนอก สถิติที่ใช้คือสถิติเชิงพรรณนา ผลการดำเนินงานพบว่า จำนวนกรงที่วางทั้งหมด 153 กรง ดักหนูได้ 10 ตัว คิดเป็นค่า percent trap success เท่ากับ 6.54 หนูที่ดักได้เป็นหนูท้องขาว (Rattus ratus) คิดเป็นร้อยละ 60 หนูจี๊ด (R. exulans) ร้อยละ 30 และหนูท่อ (R. norvegicus) ร้อยละ 10.0 ตามลำดับ หนูที่ดักได้มีปรสิตภายนอก (cctoparasite) จำนวน 7 ตัวคิดเป็นค่า infested rate เท่ากับร้อยละ 70.0 ปรสิตภายนอกที่พบเป็นหมัดหนูชนิด Xenopsylla cheopis จำนวน 9 ตัว คิดเป็นค่าดัชนีหมัดหนูเท่ากับ 0.9 และไรอ่อน (Chigger mite)ในตระกูล Ascoschoengastia และ tropical rat mite ตระกูล Laelaps สำหรับการตรวจหาพยาธิปอดหนู (Angiostrongylus cantonensis) พบหนูมีพยาธิปอดหนูจำนวน 2 ตัวอย่างคิดเป็นร้อยละ 2000 ของจำนวนตัวอย่างที่ส่งตรวจ เป็นพยาธิตัวเต็มวัยทั้งหมด 5 ตัว ตัวเมีย 3 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว ผลการตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อริคแค็ทเซียโดยวิธี indirect inmunoflorescent assay พบตัวอย่างน้ำเหลืองหนูให้ผลบวกต่อเชื้อริคแค็ทเซีย จำนวน 8 ตัวอย่าง คิดเป็นอัตราการติดเชื้อริคแค็ทเชียร้อยละ 80.0 โดยมีตัวอย่างน้ำเหลืองให้ผลบวกกับเชื้อโรคสครับไทฟัสจำนวน 4 ตัวอย่างคิดเป็นร้อยละ 40.0 และให้ผลบวกกับเชื้อมิวรีนไทฟัสจำนวน 4 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 40.0 ขณะที่ไม่พบการติดเชื้อกาฬโรคและเชื้อเลปโตสไปร่าในตัวอย่างส่งตรวจ ข้อเสนอแนะควรดำเนินการเฝ้าระวังพาหะนำโรคและหาอัตราการติดเชื้อโรคในหนูภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองอย่างน้อยปีละครั้งและควรดำเนินการในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบหรือดูแนวโน้มการเพิ่มขึ้นหรือลดลง ของพาหะนำโรคและใช้ในการพยากรณ์การเกิดโรคติดต่อที่มีหนูเป็นรังโรคต่อไป
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

