เครื่องย้อมสเมียร์แบบจุ่มชนิดอัตโนมัติ

บทคัดย่อ

การตรวจ CBC ต้องย้อมสเมียร์เลือดควบคู่กับการตรวจด้วยเครื่องอัตโนมัติทุกครั้ง โดยจะย้อมสีด้วยวิธีมาตรฐาน Wright stain โดยใช้ถาดย้อมสี ซึ่งเป็นการย้อมในแนวราบ มีขั้นตอนเติมสี เติมบัพเฟอร์ และเป่าสี ซึ่งต้องใช้ทักษะในการย้อม ไม่สามารถควบคุมคุณภาพการติดสีให้เท่ากันทุกแผ่น สิ้นเปลืองสี มีขั้นตอนยุ่งยาก แต่ละขั้นตอนต้องตั้งเวลาอย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงดัดแปลงเครื่องแยกสารโดยไฟฟ้า (Electrophoresis) ที่ไม่ใช้งานแล้ว มาเป็นเครื่องย้อมสเมียร์แบบจุ่มชนิดอัตโนมัติโดยใช้เทคนิควิธีการย้อมแบบดัดแปลงโดยตั้งโปรแกรมการย้อมสีดังนี้ สี Wright stain 1 วินาทีน้ำเปล่า 1 วินาที สี Eosin 1 วินาที น้ำเปล่า 1 วินาที สี Methylene blue 1 วินาที น้ำประปา 1 วินาที 2 ครั้ง ช่องเป่าลมร้อนทดสอบประสิทธิภาพโดยนำเลือดครบส่วนของผู้ป่วย จำนวน 20 ราย ทำสเมียร์เลือดรายละ 2 ชุด ชุดที่ 1 ย้อมด้วย วิธีมาตรฐาน ชุดที่ 2 ย้อมแบบจุ่มด้วยเครื่องย้อมอัตโนมัติโดยเทคนิควิธีดัดแปลง จับเวลาการย้อม และให้คะแนนประสิทธิภาพการติดสีทั้งสองวิธี เก็บข้อมูลต้นทุนน้ำยาที่ใช้การย้อมแบบมาตรฐานและแบบดัดแปลง 6 เดือน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Pair t-test การย้อมสีด้วยเครื่องย้อมด้วยวิธีดัดแปลง มีเวลาการย้อมสีและต้นทุนเฉลี่ย (Mean = 6.20 ± 0.01 และ 1.18 ± 0.14 ตามลำดับ) น้อยกว่าการย้อมสีด้วยวิธีมาตรฐาน (Mean = 18.57 ± 0.85 และ0.41 ± 0.31 ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)คะแนนประสิทธิภาพการย้อมสีเฉลี่ย (Mean = 4.47 ± 0.42 ) มากกว่าการย้อมสีด้วยวิธีมาตรฐาน (Mean = 3.91 ± 0.51) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ดังนั้นการย้อมสีโดยใช้เครื่องย้อม สเมียร์เลือดแบบจุ่มชนิดอัตโนมัติ สามารถนำมาใช้ย้อมสเมียร์เลือดในงานประจำได้ ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการย้อมควบคุมคุณภาพของ สเมียร์ให้เท่ากันหรือใกล้เคียงกันทุกแผ่นเนื่องจากใช้เครื่องอัตโนมัติ ประหยัดค่าใช้จ่ายของน้ำยา บุคลากรที่ไม่มีทักษะการย้อมสเมียร์สามารถใช้งานได้ และเนื่องจากเป็นการประยุกต์เครื่องมือที่ไม่ใช้งานแล้วทำให้เครื่องมือที่ดัดแปลงมีประสิทธิภาพไม่สูงสุด อาจมีข้อจำกัดในการปฏิบัติงาน คือเมื่อไฟดับ โปรแกรมที่เซ็ทไว้จะหายไปจะต้องเซ็ทค่าใหม่ และต้องมีการบำรุงรักษาน้ำยาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง