การพัฒนารูปแบบการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้แผนที่เดินดินและปฏิทินชุมชนร่วมกับภาคีสุขภาพ เขตตำบลดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์
คำสำคัญ:
ติดตามเยี่ยมบ้าน, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
ปัญหาการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เขตตำบลดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ส่วนใหญ่ผู้ป่วยได้รับการแก้ไขปัญหาไม่ครอบคลุม ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำ วัตถุประสงค์การศึกษาครั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบผลก่อนและหลังการพัฒนารูปแบบการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้แผนที่เดินดินและปฏิทินชุมชนร่วมกับภาคีสุขภาพต่อการเข้าถึงบริการ ความพึงพอใจ ระดับอาการปวด ภาวะแทรกซ้อน และการรักษาและแก้ไขปัญหาของผู้ป่วย และเปรียบเทียบผลก่อนและหลังการพัฒนารูปแบบการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้แผนที่เดินดิน และปฏิทินชุมชนร่วมกับภาคีสุขภาพต่อความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน รูปแบบการศึกษา การวิจัยกึ่งทดลอง ระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง มีนาคม 2559 กลุ่มตัวอย่าง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ผ่านเกณฑ์การคัดเข้า จำนวน 40 คน ที่มีอายุ 50 - 89 ปี เครื่องมือการศึกษาแบบสอบถามต่างๆ และแบบประเมินคะแนน Barthel ADL สถิติที่ใช้ สถิติเชิงพรรณนา และ paired t-test ขั้นตอนการศึกษา (1) ค้นหาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตามเกณฑ์การคัดเข้า (2) การเยี่ยมบ้านผู้ป่วยและประเมินผลก่อนการศึกษา (3) ทีมสหสาขาวิชาชีพร่วมกับภาคีสุขภาพจัดทำแผนที่เดินดินและปฏิทินชุมชน (4) การติดตามเยี่ยมบ้านของทีมสหสาขาวิชาชีพร่วมกับภาคีสุขภาพ ทุก ๆ 1 เดือน (5) ประเมินผลหลังการศึกษา 2 ระยะ คือ 1 เดือน และ 6เดือน ผลการศึกษา หลังการศึกษา 6 เดือน กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยได้รับการเข้าถึงบริการ ร้อยละ 100.0 จากเดิม ร้อยละ 77.5 ผู้ป่วยได้รับความพึงพอใจ ร้อยละ 100.0 จากเดิม ร้อยละ 67.5 ผู้ป่วยมีระดับอาการปวดลดลง ร้อยละ 17.5จากเดิมร้อยละ 62.5 ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อน ร้อยละ 22.5 จากเดิม ร้อยละ 52.5 ผู้ป่วยได้รับการรักษาและดูแลการแก้ไขปัญหาของผู้ป่วย ร้อยละ 100.0 จากเดิม ร้อยละ 72.5 คะแนนเฉลี่ย Barthel ADL เพิ่มขึ้น จาก 10.0คะแนน เป็น 60.0 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.0001) สรุปผลการศึกษาได้ว่าการพัฒนาติดตามเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดควรมีระยะ 6 เดือนขึ้นไป ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข้อเสนอแนะ ควรศึกษาผลการพัฒนาใน ด้านต่างๆ และนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาต่อไป
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.