การพัฒนาการจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยระยะกึ่งเฉียบพลันและไม่เฉียบพลันในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • อรทัย เขียวเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
  • ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย มูลนิธิศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • วัชรา ริ้วไพบูลย์ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
  • ชัยโรจน์ ซึงสนธิพร สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพ

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันและไม่เฉียบพลัน, บริการการฟื้นฟูสมรรถภาพ, วิธีจ่ายเงิน, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบบริการที่เหมาะสมสำหรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในผู้ป่วยระยะ กึ่งเฉียบพลันและไม่เฉียบพลัน พื้นที่ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 4 เขต คือ เขต 4 สระบุรีเขต 8 อุดรธานี เขต 6 ระยอง และเขต 12 สงขลา ทำการศึกษาในโรงพยาบาล 24 แห่ง ใน 5 จังหวัดที่สมัครใจเข้าร่วมพัฒนารูปแบบบริการ ใน 3 ขั้นตอน คือ (1) พัฒนาแนวทางการบริการและวิธีการจ่ายค่าชดเชย (2)ทดลองดำเนินการตามบริบทของแต่ละพื้นที่ และ (3) ประเมินผลลัพธ์โดยประเมินความสามารถในการทำหน้าที่ของผู้ป่วย ใช้เครื่องมือ Barthel Index (BI) ประเมินประสิทธิภาพจากเวลาและต้นทุนในการให้บริการฟื้นฟูฯเก็บรวบรวมข้อมูลจาก 3 แหล่ง คือ (1) กลุ่มผู้ให้บริการ (2) ผู้รับบริการใน 4 กลุ่มโรค (Stroke, brain dystunction, spinal cord dystunction และ major muliple trauma) และ (3) ฐานข้อมูลการเบิกจ่ายผู้ป่วยใน/การชดเชยบริการกองทุนฟื้นฟูฯ สปสช. ระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่ กรกฎาคม 2555 - กุมภาพันธ์ 2557 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ Chi-square test, paired t-test, f-test และ multiple regression ผลการศึกษาพบว่า ทั้ง 4 เขตมีการพัฒนารูปแบบบริการและวิธีการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน มี 2 เขตมีรูปแบบบริการ ฟื้นฟูฯ ที่ความโดดเด่นและแตกต่างจากก่อนดำเนินโครงการฯ คือ บริการฟื้นฟูฯแบบผู้ป่วยใน ต่อด้วยผู้ป่วยนอก รวมถึง ติดตามเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่อง (สระบุรี) และขยายพื้นที่บริการจากโรงพยาบาลศูนย์ไปฟื้นฟูฯ ต่อที่โรงพยาบาลชุมชน (สงขลา) มีวิธีจ่ายเงิน 3 แบบ คือ เหมาจ่ายล่วงหน้า จ่ายเงินตามผลลัพธ์ และจ่ายเงินตามผลงานบริการ เปรียบเทียบผลลัพธ์ของบริการฟื้นฟูฯ จากความสามารถในการทำหน้าที่ของผู้ป่วย (คะแนน BI) และ ต้นทุนบริการฟื้นฟูระหว่างวิธีการจ่ายเงิน พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับบริการฟื้นฟูๆ ทั้ง 3 แบบ มีค่าเฉลี่ย คะแนน BT สูงกว่า ก่อนได้รับบริการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่การเข้าถึงบริการฟื้นฟูฯ ในช่วงเวลาที่สำคัญของผู้ป่วย โรคหลอดเลือด-สมองยังต่ำ (เพียงร้อยละ 13.1 เท่านั้น) ซึ่งจากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า บริการฟื้นฟูฯ ทุกรูปแบบ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี แต่มีู้ป่วยจำนวนน้อยที่เข้าถึงบริการตามความจำเป็น ดังนั้น การพัฒนาระบบบริการฟื้นฟูฯ และการจ่ายเงินควรมุ่งไปที่การจัดการเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการอย่างต่อเนื่องและเกิดผลลัพธ์ที่ดี

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-14

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้

1 2 3 > >>