การศึกษาเปรียบเทียบตำแหน่งของข้อเทียมในการทำ total hip arthroplasty ระหว่างวิธี lateral และ posterior incision ในโรงพยาบาลปทุมธานี
คำสำคัญ:
ข้อเทียมบทคัดย่อ
การวางตำแหน่งของข้อเทียมในการทำ total hip arthroplasty เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ซึ่งเชื่อกันว่าการเลือกใช้ incision ที่แตกต่างกัน มีแนวโน้มได้ตำแหน่ง ข้อเทียมที่แตกต่างกัน เพื่อศึกษาความแตกต่างของตำแหน่งของข้อเทียม ที่ได้จากการทำ total hip arthro-plasty ด้วยวิธี lateral incision และ posterior incision จึงรวบรวมข้อมูลจากภาพถ่ายรังสี และเวช-ระเบียนในผู้ป่วยที่รับการรักษาโดยการผ่าตัด total hip arthroplasty ทุกรายในโรงพยาบาลปทุมธานีตั้งแต่พ.ศ. 2545-2550 จำนวน 57 คนเป็นจำนวนสะโพก 68 ข้างโดยมีอัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิง อายุ และการวินิจฉัยโรคทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตำแหน่งของข้อเทียมที่วัดได้ ได้แก่ acetabular cup inclination, vertical height, horizontal distance และ anteversion ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ femoral stem ในกลุ่ม posterior incision จะได้ alignment มีแนวโน้มที่จะเป็น varus และแตกต่างจาก lateral incision ซึ่งมีแนวโน้มเป็น valgus อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นกลุ่ม posterior incision มี offset มากกว่ากลุ่ม lateral incision อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากตำแหน่งของ proximal femur ที่แตกต่างกันขณะใส่ femoral stem แต่พบว่า limb length discrepancy ของทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อมูลดังกล่าวสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการป้องกันการวางตำแหน่งข้อเทียม ที่ผิดพลาดตาม incision ที่เลือกใช้ในการทำ total hip arthroplasty
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

