การใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดเพื่อแก้ไขภาวะกระบังลมหย่อนในสตรีไทย
คำสำคัญ:
อุปกรณ์พยุงช่องคลอด, ภาวะกระบังลมหย่อน, อัตราการคงใช้, ภาวะแทรกซ้อนบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาอัตราการคงใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดเพื่อแก้ไขภาวะกระบังลมหย่อนรวมทั้งศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการหยุดใช้อุปกรณ์โดยศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนของผู้รับบริการกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้รับบริการที่ใส่อุปกรณ์พยุงช่องคลอดเพื่อแก้ไขภาวะกระบังลมหย่อนในคลินิกนรีเวชทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี การใส่อุปกรณ์สำเร็จหมายถึง ผู้รับบริการยังคงใส่อุปกรณ์ต่อเนื่องจนถึงวันนัดตรวจติดตามครั้งต่อไป และมีการเก็บข้อมูลเหตุผลที่ผู้รับบริการหยุดใช้อุปกรณ์ด้วย กลุ่มตัวอย่างมีทั้งสิ้น 328 ราย มีอัตราการคงใช้ทั้งสิ้น ร้อยละ 86.3 ระยะเวลาใส่เฉลี่ย 19 เดือน เหตุผลที่หยุดใช้มากที่สุดคือ อุปกรณ์หลุด อาการผิดปกติที่พบมากที่สุด ได้แก่ ตกขาว (ร้อยละ 21.6) อายุ จำนวนครั้งของการคลอด น้ำหนักตัว ระยะเวลาของการหมดประจำเดือน ภาวะปัสสาวะเล็ด การถ่ายปัสสาวะลำบาก และระดับของการหย่อนของกระบังลมไม่มีความเกี่ยวข้องกับอัตราการคงใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดโดยสรุป มีอัตราการคงใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดเพื่อแก้ไขภาวะกระบังลมหย่อนสูง และถ้ามีการดูแลที่เหมาะสม อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนพบได้น้อย
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

