ความถูกต้องของการวินิจฉัยการบาดเจ็บอวัยวะในช่องท้องด้วยคลื่นเสี่ยงความถี่สูง ของโรงพยาบาลนครพิงค์
คำสำคัญ:
การบาดเจ็บบริเวณช่องท้อง, อัลตราซาวด์, ความถูกต้องของการวินิจฉัยบทคัดย่อ
การวินิจฉัยการบาดเจ็บอวัยวะในช่องท้องด้วยลักษณะอาการทางคลินิกในผู้ป่วยที่บาดเจ็บบริเวณช่อง ท้องมีความถูกต้องต่ำ การตรวจพิเศษมาตรฐานคือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของช่องท้อง เป็นวิธีที่มีความถูก ต้องแต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ไม่เหมาะกับผู้ป่วยอาการหนักหรือเคลื่อนย้ายยากการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวด์) เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว ทำซ้ำได้ ราคาไม่แพง แต่มีความถูกต้องด้อยกว่า อัลตราซาวด์เป็นการตรวจพิเศษหลักในผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บบริเวณช่องท้องของโรงพยาบาลนครพิงค์ จึงศึกษา diag-nostic test แบบย้อนหลังเชิงพรรณนาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความถูกต้องของการตรวจวินิจฉัยการบาดเจ็บอวัยวะในช่องท้องด้วยวิธีอัลตราซาวด์
คัดเลือกผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยบาดเจ็บบริเวณช่องท้องตามบัญชีจำแนกโรคระหว่างประเทศฉบับแก้ไขครั้งที่ 10 (ICD-10) บท S36-S39 การบาดเจ็บของอวัยวะในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน ที่ได้ตรวจอัลตรา-ซาวน์และมีผลการตรวจ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ถึง 31 สิงหาคม 2549 คันบันทึกประวัติผู้ป่วยเพื่อระบุอวัยวะในช่องท้องที่ได้รับบาดเจ็บและการวินิจฉัยหลังผ่าตัดจากบันทึกการผ่าตัด อธิบายข้อมูลด้วยสัดส่วน ร้อยละ วิเคราะห์ความถูกต้องด้วยความไว (sensitivity) ความจำเพาะ (specificity) positive predic- tive value, negative predicive value และ false negative rate วิเคราะห์ความเสี่ยงสัมพัทธ์ด้วย risk ratio
พบว่าในผู้ป่วย 290 คน ผู้ป่วยที่ผลอัลตราซาวด์เป็นบวกมีโอกาสได้รับการผ่าตัดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<o.001) ความไวของอัลตราซาวด์โดยรวมร้อยละ 63.5 ความจำเพาะร้อยละ 100 positive predic-tive value ร้อยละ 100 negative predictive value ร้อยละ 1.4 และ false negative rate ร้อยละ 36.5ความถูกต้องในการวินิจฉัยด้วยอัลตราซาวด์จำแนกตามชนิดของอวัยวะพบว่า อวัยวะที่มีความไวและ negative predictive value สูงสุดได้แก่ ไต อวัยวะที่มีความจำเพาะและ positive predictive value สูงสุดคือ ตับอ่อนกระเพาะปัสสาวะและถุงน้ำดี เมื่อพิจารณา false negative rate พบว่าอวัยวะที่อัลตราซาวด์วินิจฉัยได้ยากที่สุดเรียงตามลำดับคือ ถุงน้ำดี ลำไส้ ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ ตับ ม้าม และไต ผู้ป่วยที่ผลอัลตรา-ซาวด์พบน้ำในช่องท้องอย่างเดียวมีการวินิจฉัยการบาดเจ็บของอวัยวะเมื่อผ่าตัดมากกว่าผู้ป่วยที่ผลอัลตรา-ซาวด์ไม่พบน้ำในช่องท้อง 1.7 เท่า อัลตราซาวด์ช่วยวินิจฉัยการบาดเจ็บของอวัยวะในช่องท้องเบื้องต้นได้ดีควรระมัดระวังเมื่อพบน้ำในช่องท้องจากอัลตราซาวด์ เพราะการผ่าตัดมักพบการบาดเจ็บของอวัยวะร่วมด้วยการพบน้ำในช่องท้องจึงเป็นการทำนายที่ดีว่ามีอวัยวะบาดเจ็บ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

