ผลการรักษาผู้ป่วยในคลินิกโรคหืด ในโรงพยาบาลบางบัวทอง

บทคัดย่อ

หีดเป็นโรคเรื้อรังและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศไทยและอำเภอบางบัวทอง หนึ่งในปัญหาการ ดูแลผู้ป่วยโรคหีดคือการมีแพทย์หลายคนดูแลผู้ป่วย หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานและไม่ต่อเนื่อง โรงพยาบาลบางบัวทองจึงได้จัดตั้งคลินิกโรคหืดขึ้นในเดือนเมษายน 2550 เพื่อจัดระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหืดให้ได้มาตรฐานของ GINA และศึกษาแบบย้อนหลังเชิงพรรณนานี้เปรียบเทียบผล ใน 2 ช่วงเวลา คือตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นข้อมูลก่อนจัดตั้งคลินิกโรคหืด กับตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นข้อมูลหลังจัดตั้งคลินิกโรคหืด จำนวน 60 คน เพื่อประเมินประสิทธิผลทั่วไปของการรักษาผู้ป่วยโรคหืดในโรงพยาบาลบางบัวทอง

ผลการศึกษา พบว่ามีผู้ป่วย 60 ราย ที่เข้าร่วมการศึกษาทั้งสองระยะ แพทย์นำแนวทางการรักษาโรค หืดมาใช้กับ ผู้ป่วยอย่างเหมาะสมทุกราย (ร้อยละ 100) มีอัตรรผู้ป่วยโรคหืดพ่นยาได้ถูกต้อง ร้อยละ 51.7 อัตราการเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.005) อัตราผู้ป่วยเข้า รับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.001) ค่าสมรรถภาพของปอด (PEFR)ในระดับดีเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.7 เป็น ร้อยละ 76.6 และมีร้อยละ 51.7 ที่ประเมินการควบคุมโรคหืดด้วยตนเองว่าอยู่ในระดับควบคุมโรคหืดได้ดีแล้ว ซึ่งพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีระดับความรุนแรงของโรคหืดลดลง มีความสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและงานประจำได้ดีขึ้น

สรุป หลังเข้ารับการรักษาในคลินิกโรคหืด พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีผลการรักษาที่ดีขึ้นในทุกด้านเมื่อเทียบกับก่อนเข้าคลินิก โดยพบว่าอาการหอบเหนื่อยในเวลากลางวันและกลางคืน การใช้ยาพ่นขยายหลอดลมการมาพ่นยาที่ห้องฉุกเฉิน และการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลง ค่าสมรรถภาพของปอด (PEFR) มีแนวโน้มดีขึ้น มีผลให้กลุ่มตัวอย่างมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แสดงถึงประสิทธิผลที่ดีในการพัฒนาระบบการดูแล รักษาผู้ป่วยโรคหืดโดยการจัดตั้งคลินิกโรคหีด