ผลสัมฤทธิ์ของการประเมินระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการเครื่องสำอาง และวัตถุอันตราย

บทคัดย่อ

ระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการเครื่องสำอางและวัตถุอันตรายมีการพัฒนา ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 อย่างต่อเนื่อง การทบทวนระบบบริหารคุณภาพเป็นข้อกำหนดที่สำคัญข้อหนึ่งของมาตรฐานสากล ดังกล่าวเพื่อให้มั่นใจว่ามีความเหมาะสมและประสิทธิภาพนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย จากการวิเคราะห์ข้อมูลผลการทบทวนระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการ ระหว่าง พ.ศ. 2548-2550 พบว่าผลสัมฤทธิ์ของงานจากการทบทวนระบบบริหารคุณภาพห้องปฏิบัติการ ที่สำคัญเป็นการพัฒนาปรับปรุงกระบวนงานทั้งที่ต้องพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการ ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และงานประจำ โดยใน พ.ศ. 2549 สามารถพัฒนาศักยภาพการเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงระดับภูมิภาคอาเซียนตามเป้าหมายที่กำหนด ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการอาเซียนเครื่องสำอางให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านเคมีรายการทดสอบปริมาณโลหะหนักปนเปื้อนในเครื่องสำอาง โดยวิธี Atomic Absorption Spectrophotom-etry และด้านชีววิทยา รายการทดสอบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ในเครื่องสำอาง ใน พ.ศ. 2550 มีการจัดทำและพัฒนาระบบบริหารคุณภาพการเป็นผู้ดำเนินการแผนงานทดสอบความชำนาญตามมาตรฐานสากลISO/ IEC G 43-1:1997 และ ILAC G-13:2000 ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิง นอกจากนี้ยังสามารถขยายศักยภาพการให้บริการรายการทดสอบชนิดใหม่ รวม 55 รายการในช่วงพ.ศ. 2548-2550 สำหรับการพัฒนาปรับปรุงกระบวนงานที่เป็นงานประจำในระหว่าง พ.ศ. 2548-2550 พบ ว่าผลสัมฤทธิ์จากการทบทวนระบบบริหารคุณภาพซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินผล ทำให้การดำเนินงานด้านคุณภาพ วิชาการ และบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากใช้ปัญหาเป็นพื้นฐานในการแก้ไขและวางแผนป้องกัน พัฒนาและปรับปรุง โดยเฉพาะโปรแกรม IT ที่นำมาใช้ด้านคุณภาพ ได้แก่ โปรแกรมแจ้งเตือนกำหนดระยะเวลาการสอบเทียบเครื่องมือวิทยาศาสตร์ บันทึกการฝึกอบรมบุคลากร เพื่อควบคุมเอกสารด้านคุณภาพ และรับตัวอย่างและรายงานผลการทดสอบ ช่วยลดระยะเวลาการให้บริการทดสอบ โดยเฉพาะการทดสอบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ในเครื่องสำอาง ซึ่งมีผู้ใช้บริการมาก โดยใน พ.ศ. 2548-2550 ลดระยะเวลาการให้บริการได้ร้อยละ 43.1, 69.5 และ 50.8 ตามลำดับ จากการทบทวนความเหมาะสมของนโยบายคุณภาพ วัตถุประสงค์ พบว่าเหมาะสม มีวิธีการทบทวนและปรับปรุงมาตรฐานวิธีปฏิบัติงาน เพื่อให้เหมาะสมกับการปฏิบัติ ส่งผลให้สามารถรักษาระบบบริหารคุณภาพได้โดยไม่พบข้อบกพร่องที่ต้องประเมินผลกระทบย้อนหลัง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามีกระบวนการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบปัญหาเดิมซ้ำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนา ปรับปรุง และทบทวนระบบบริหารฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนงานที่พี่กำหนาได้มีการแก้ไขการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื้องสามารถส่งผลสัมฤทธิตามเป้าหมายการดำเนินการ