อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย Ischemic Stroke ภายหลังการจัดตั้ง Stroke Fast Track ของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์

ผู้แต่ง

  • วิรัตน์ อ่อนสี กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

คำสำคัญ:

โรคหลอดเลือดสมองตีบ, ยาละลายลิ่มเลือด, เครือข่ายการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันระยะเฉียบพลัน

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคหลอดเลือด-สมองตีบ (ischenigstroke) ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการจัดตั้งเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันระยะเฉียบพลัน กับช่วงเวลาหลังจากมีการจัดตั้ง stroke fast trac (ซึ่งตั้งึ้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2553) และเปรียบเทียบปัจจัย ที่แตกต่างกัน ของผู้ป่วย ischemic stroke ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytic therapy) คือ recombinant tissue plasminogen activator (r-PA) ที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลกับผู้ป่วยที่รอดชีวิต โดยศึกษาผู้ป่วย ischemic stroke ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดทั้งหมดในโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ที่อายุมากกว่า 15 ปี โดยไม่รวมผู้ป่วยที่ความดันโลหิตสูงกว่า 180/110 mmHlg ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย ผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่ข้อมูลบันทึกไม่ครบ จากการศึกษามีผู้ป่วย ischemic stroke ได้รับ r-PA ร้อยละ 3.79 อัตราการตาย ในโรงพยาบาลเฉลี่ยในช่วงก่อนที่จะมีการจัดตั้ง stroke fast track และภายหลังจากที่มีการจัดตั้ง stroke fast track ไม่มีความแตกต่างกัน (11.2±1.36 versus 10.42±3.34, P=0.670) พบว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตในโรงพยาบาล มีอัตราการเป็นเบาหวานมากกว่า มีอัตราการเกิดภาวะเลือดออกในสมองภายหลังจากการได้รับ r-PA มากกว่า มีระดับ National institute of health stroke scale (NIHSS) ก่อนที่จะได้รับ rt-PA ที่สูงกว่า (11.60±4.17 versus 11.26±4.56, p=0.006) และมีระดับ NIHSS ภายหลังจากได้รับ T-PA ที่สูงกว่า (7.90±8.60 versus 4.47±4.56, p<0.0001) เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่รอดชีวิต

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-22

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ