ผลการใช้หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุ ที่ปิดสนิทของผู้ประกอบการ จังหวัดระยอง

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ เปรียบเทียบระดับความรู้และระดับ ทัศนคติกับปัจจัยด้านผู้ประกอบการและสถานประกอบการ ผลการปฏิบัติ และปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทของผู้ประกอบการ โดยเก็บ ข้อมูลจากสถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท จำนวน 70 แห่ง เครื่อง มือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วนคือ ข้อมูลทั่วไป แบบวัดความรู้ ทัศนคติซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ ทดสอบความเชื่อมั่นโดยวิธีแอลฟาของครอนบาด มีค่าเท่ากับ 0.62 และ 0.63 ตามลำดับและผลการประเมินสถานที่ผลิต เก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้ตอบแบบสอบถามพร้อมกับการประเมินสถานที่ผลิต ระหว่างวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2551 วิเราะห์โดยใช้สถิติพรรณนาได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติวิเคราะห์ ได้แก่ one sample t-test, independent t-test, F-test และ Chi-Square

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทอยู่ในระดับดี ร้อยละ 61.4 ระดับปานกลาง ร้อยละ 34.3 มีทัศนคติอยู่ในระดับดี และปานกลางเท่ากัน ร้อยละ 40.0 เมื่อเปรียบเทียบความรู้และทัศนคตกับปัจจัยด้านผู้ประกอบการและสถานประกอบการพบว่า ผู้ประกอบการที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีความรู้และทัศนคติแตกต่างกัน ผลการประเมินสถานที่ผลิตพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 78.6 ซึ่งมากกว่าที่ผ่านเกณฑ์เกือบ 4 เท่า โดยพบ ข้อบกพร่องรุนแรงเรื่องห้องบรรจุ ร้อยละ 62.9 และพบข้อบกพร่องรุนแรงเรื่องการบรรจู ร้อยละ 14.3 จาก การวิเคราะหมีจจัยท์มีผลตอการปภบัตตามหลักเกณฑวธการทัดในการผลิต (GMP) นาบรเภคในภาชนะ บรรจุที่ปิดสนิท พบว่า ปัจจัยด้านผู้ประกอบการ ปัจจัยค้านสถานประกอบการ ความรู้และทัศนคติ ไม่มีผล ตอการบฎบตตามหลกเกณฑวธิการทดเนการผลด (GMP

จากข้อค้นพบดังกล่าว ควรมีการให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ GMP โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี มีสถานประกอบการประเภทไม่เข้าข่ายโรงงานและมีระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตผลิตต่ำกว่า 5 ปี และ 11 ปีขึ้นไป ควรให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ GMP โดยเน้น เรื่องการบันทึก การรายงาน ห้องบรรจและการบรรจ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้สถานประกอบการสามารถรักษาและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) ให้คงอยู่ตลอดเวลา