ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเกิดภาวะรกค้างภายหลังคลอดบุตรทางช่องคลอดในโรงพยาบาลปทุมธานี
คำสำคัญ:
ภาวะรกล้าง, ปัจจัยเสี่ยง, การคลอดบุตรทางช่องคลอดบทคัดย่อ
การคลอดในระยะที่ 3 ของมารดาคลอดบุตรส่วนใหญ่มักใช้เวลาจำกัดและไม่ค่อยมีเหตุการณ์ที่ไม่คาด คิด สำหรับการคลอดรกทางช่องคลอดนั้นจะวินิจฉัยว่ารกค้างเมื่อนานมากกว่า 30 นาที ถึงแม้จะยังมีข้อถกเถียงถึงเรื่องของเวลาและการรักษา การล้วงรถก็ยังเป็นวิธีที่ใช้รักษาอยู่ในปัจจุบัน การศึกษาที่ผ่านมาได้กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างของภาวะรกค้าง วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดรกค้างของมารดาคลอดบุตรทางช่องคลอด ด้วยวิธีการศึกษาแบบสังเกตเชิงวิเคราะห์ในมารดาคลอด บุตรอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ทางช่องคลอด ทำการศึกษาในช่วง 1 มกราคม 2548-30 มิถุนายน 2549 ศึกษาจากแฟ้มประวัติของมารดาคลอดบุตรจำนวน 141 ราย โดยมีมารดาคลอดบุตรทางช่องคลอดจำนวน 47 ราย และทำการคัดเลือกแบบสุ่มอีก 94 รายที่มีการคลอดรกปรกิเพื่อเป็นกลุ่มควบคุม รายงานผลเป็นค่าเฉลี่ย ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติวิเคราะห์โดยใช้ student t test ในการหาความสัมพันธ์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น (p < 0.05)
การวิจัยพบว่ากลุ่มศึกษามีปัจจับเสี่ยงเรื่องประวัติการขูดมดลูกมากกว่ากลุ่มควบคุม (36.17% และ 14.89% ตามลำดับ, p=0.004) ประวัติน้ำเดินก่อนคลอด (31.9% และ 17% ตามลำดับ, p=0.044) น้ำหนักรก (524.89±59.12 และ 580.11±46.85 ตามลำดับ, p=.007) การตั้งครรภ์หลัง (p=0.006) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากการศึกษาประชากรทั้ง 2 กลุ่มไม่พบความแตกต่างทางด้าน อายุ อายุครรภ์ ประวัติรกค้าง เวลาเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์ การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก (oxytocin) สรุปผลของการ ศึกษาพบปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เหมือนงานวิจัยอื่นก่อนหน้านี้และควรเฝ้าระวังในสตรีตั้งครรภ์ที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังกล่าวและการดูแลการคลอดที่เหมาะสมสามารถลดอัตราการเกิดภาวะรกค้างและสามารถช่วยชีวิตได้หาก มีภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นในสตรีคลอดบุตร
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2019 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

