เปรียบเทียบผลกระทบของการใช้ระบบยาแด๊ปโซนอย่างเดียวและยาผสมแบบใหม่ต่ออัตราการเกิดและตรวจพบผู้ป่วยโรคเรื้อนใหม่ของ 7 จังหวัดในเขต 4
บทคัดย่อ
ผู้วิจัยได้ศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการใช้ยาระบบยาแด๊ปโซนชนิดเดียวในโครงการควบคุมโรคเรื้อนระหว่างปี พ.ศ.2526 – 2530 กับการใช้ระบบยาผสมแบบใหม่ ในช่วงปี พ.ศ.2531 – 2535 ที่มีต่อผลกระทบทางระบาดวิทยาของการลดอัตราความชุกของโรคเรื้อน และอัตราการค้นพบผู้ป่วยโรคเรื้อนใหม่ในพื้นที่ 7 จังหวัดที่ศูนย์โรคเรื้อนเขต 4 ราชบุนีรับผิดชอบคือ ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม โดยใช้ดัชนีชี้วัดทางระบาดวิทยา 10 ตัวเป็นเครื่องวัดในการประเมินผลข้อมูลที่ได้รวบรวมและวิเคราะห์จากระเบียบและรายงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ผลการศึกษาพบว่ายาผสมมีประสิทธิผลสูงกว่ายาแด๊ปโซนชัดเจน สามารถลดอัตราของโรคเรื้อนใน 5 ปีได้ร้อยละ 85 ขณะที่แด๊ปโซนลดได้ร้อยละ 40 และสามารถลดอัตราการค้นพบผู้ป่วยโรคเรื้อนใหม่ลงได้ร้อยละ 67 ขณะที่ลดได้ร้อยละ 27 โดยการใช้ยาแด๊ปโซน นอกจากนั้นยังพบว่ายาผสม MDT ช่วยดึงดูดให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนใหม่สนใจและยอมรีบมาตรวจรักษาแต่เนิ่นๆเร็วขึ้นเป็น 2.5 ปี นับจากเริ่มมีอาการ (5.9 ปีสมัยใช้แด๊ปโซน)
นอกจากนั้น ยังพบว่ายาผสมสามารถลดการแพร่ติดต่อของโรคเรื้อนในพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งพิสูจน์ชัดเจนขึ้นจากการศึกษาครั้งนี้ว่าภาวะระบาดและแพร่โรคลดลง จึงน่าจะส่งผลดีต่อการกำจัดโรคเรื้อนใน 7 จังหวัดนี้และปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องจากการพบในการศึกษาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงในโครงการใช้ยาผสมและการนำดัชนีชี้วัดไปใช้ประเมินในเขต 4 และเขตอื่นๆ ต่อไปด้วย
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 1994 กระทรวงสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

