การพัฒนาวิธี Dot-ELISA สำหรับตรวจวินิจฉัยโรคเลปโตสไปโรสิส

ผู้แต่ง

  • ศราวุธ สุทธิรัตน์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมุทรปราการ
  • วันเพ็ญ น้อยอุทัย คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมุทรปราการ
  • วิมลรัตน์ ไตรรัตนภักดี คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมุทรปราการ
  • วัชระ หมันเหตุ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมุทรปราการ
  • ศันสนีย์ ตันติ์จธัม ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์พิษณุโลก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

เลปโตสไปโรสิส, Dot-ELISA

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการพัฒนาวิธี Dot-ELISA สำหรับตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อเลปโตสไปราในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคม ๒๕๔๘ เพื่อนำไปใช้ตรวจคัดกรองผู้ป่วยในภาคสนาม ผลการศึกษาสภาวะที่เหมาะสมโดยวิธีดังกล่าวพบว่า ใช้ปริมาณแอนติเจนจากเชื้อ Leptospira interrogans serovar bratislavar และ autumnalis ที่ระดับความเข้มข้น ๑.๗๕ ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ป้องกันการจับของสารไม่พึงประสงค์ด้วย ๕% BSA ใช้ซีรั่มทดสอบที่เจือจาง ๑:๘๐ และความเข้มข้นของ goat anti-human IgG peroxidase conjugate ที่เจือจาง ๑:๑,๕๐๐ โดยทุกขั้นตอนจะล้างด้วย PBS-tween ๓ ครั้ง และบ่มที่อุณหภูมิห้อง เมื่อเปรียบเทียบผลการตรวจทดสอบในซีรั่ม ๕๘ ตัวอย่าง ที่ตรวจโดยวิธี MAT ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน พบว่าวิธี Dot-ELISA มีความไว ความจำเพาะ ค่าทำนายผลบวก ค่าทำนายผลลบ และความถูกต้องเป็นร้อยละ ๕๒.๙, ๖๓.๔, ๓๗.๕, ๗๖.๕ และ ๖๐.๓ ตามลำดับ โดยไม่เกิดปฏิกิริยาข้ามกลุ่มกับโรคซิฟิลิส โรคไข้หวัดนกและโรคสครับไทฟัส การศึกษานี้เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น ยังจะต้องพัฒนาวิธีการและเพิ่มจำนวนตัวอย่าง ทดสอบให้มากขึ้นเพื่อให้ได้วิธีทดสอบที่เหมาะสมต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-29

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้