การประเมินผลระบบการป้องกันอาการข้างเคียงจากยา Allopurinol ในผู้ป่วยโรคเรื้องรัง
คำสำคัญ:
โรคเกาต์, การพัฒนาระบบ, อาการไม่พึ่งประสงค์จากยา, ภาวะ allopurinol hypersensitivity syndromeบทคัดย่อ
Allopurindl เป็นยาที่ใช้ลดกรดยูริกในเลือดอย่างแพร่หลายในผู้ป่วยโรคเกาต์ มีรายงานการเกิดภาวะ allopurinol hypersenstivity syndrome (AHS) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงต่อระบบผิวหนังและอวัยวะภายใน ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดทุพลภาพและเสียชีวิตได้ในอัตราที่สูง โดยภาวะดังกล่าวมักเกิดกับผู้ป่วยที่ได้รับยาในขนาดสูง ร่วมกับมีปัญหาโรคไตเรื้อรัง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลระบบป้องกันอาการข้างเคียงจากยา allopurinol ในผู้ป่วยนอกโรคเรื้อรัง เป็นการศึกษาแบบ prospective descriptive study โดยทำการติดตามผู้ป่วยนอกโรคเรื้อรัง ที่ได้รับยา allopurinol ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 - มิถุนายน 2554 และทำการปรับขนาดยาให้เหมาะสมตาม ค่าการทำงานของไต และประเมินการเกิดภาวะ AHS ในทุกครั้งที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ผลการศึกษาพบว่า มีผู้ป่วยได้รับยา allopurinol จำนวน 524 คน ในจำนวนนี้ พบผู้ป่วยเกิด AHS 5 ครั้ง โดยมีอุบัติการณ์การเกิด AHS เฉลี่ย 0.23 ครั้งต่อ 1,000 ใบสั่งยา ความรุนแรงของการเกิด AHS ระดับไม่อันตราย (ระดับ C) 4 ครั้ง (ร้อยละ 80.0) และระดับอันตรายระยะสั้น (ระดับ E) 1 ครั้ง (ร้อยละ 20.0) โดยทุกรายได้รับยา allopurind ในขนาดที่สูง ผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยของการเกิด AHS 67 ปี ผู้ป่วย 4 ราย มีโรคไตเรื้อรังร่วมด้วย (ร้อยละ 80.0) 1 ราย มีโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วย (ร้อยละ 20.0) อาการไม่พึงประสงค์ทางผิวหนังที่พบได้แก่ Maculopapular rash 3 ครั้ง (ร้อยละ 60.0) Erythema muliforme 2 ครั้ง (ร้อยละ 40.0) ไม่พบผื่นแบบ Stevens Johnson's syndrome เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2550 - 2551 ซึ่งพบผู้ป่วยเกิด AHS 3 ครั้ง มีอุบัติการณ์การเกิด AHS จากยา allopurinol เฉลี่ย 0.14 ครั้งต่อ 1,000 ใบสั่งยา ความรุนแรงของการเกิด AHS ระดับรุนแรงถึงแก่ชีวิต (ระดับ I) 2 ครั้ง (ร้อยละ66.7) และระดับรุนแรงที่ต้องนอนรักษาตัวนานขึ้น (ระดับ F) 1 ครั้ง (ร้อยละ 33.3) พบผู้ป่วยเกิด Toxic Epidermal Necrolysis (TEN) 2 ครั้ง (ร้อยละ66.7) ซึ่งเสียชีวิตทั้ง 2 ราย และ StevensJohnson'S syndrome 1ครั้ง (ร้อยละ33.3) ตามลำดับ จากผลการศึกษาสรุปได้ว่า การพัฒนาระบบป้องกันภาวะ AHS สามารถป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงจากยา allopurinol ได้ รวมถึงควรมีการติดตามและปรับขนาดการใช้ยา ที่เหมาะสมในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและผู้ป่วยสูงอายุ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

