สถานการณ์การทำงานของบัณฑิตสถาบันพระบรมราชชนก รุ่นสำเร็จปีการศึกษา 2552

ผู้แต่ง

  • ปรียนุช ชัยกองเกียรติ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
  • นุศรา ดาวโรจน์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

สถานการณ์การทำงาน, บัณฑิต, สถาบันพระบรมราชชนก, กำลังคนด้านสาธารณสุข, ข้าราชการ

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องสถานการณ์การทำงานของบัณฑิตสถาบันพระบรมราชชนก รุ่นสำเร็จปีการศึกษา 2552 เป็นการ ศึกษาเชิงสำรวจแบบวิเคราะห์ (analytical research study) มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและอธิบายสถานการณ์การทำงานของบัณฑิตสถาบันพระบรมราชชนก รุ่นสำเร็จปีการศึกษา 2552 ประชากรเป็นบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2552 จากวิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก 32 แห่งรวม 4,000 คน ดำเนินการศึกษาในเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2555 โดยใช้แบบสอบถามส่งทางไปรษณีย์ ได้กลุ่มตัวอย่างสำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในจำนวน 1,467 คน ผลการวิเคราะห์พบว่า (1) บัณฑิตสถาบันพระบรมราชชนก ส่วนใหญ่ทำงานตรงตามหลักสูตรที่จบ โดยเฉพาะหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตทำงานตรงตามหลักสูตรที่จบร้อยละ 100.00 มีสถานภาพการทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวมากที่สุดถึงร้อยละ 87.7 เป็นข้าราชการเพียงร้อยละ 7.4 โดยเฉพาะในตำแหน่งเจ้าพนักงานเภสัช เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน เจ้าพนักงานโสต ไม่มีคนใดเป็นข้าราชการเลย และประกอบกิจการ ส่วนตัว/พนักงานบริษัท น้อยที่สุดร้อยละ 0.2 เมื่อพิจารณาเงินเดือนที่ได้รับของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามตำแหน่งงานพบว่ากลุ่มที่เป็นข้าราชการ มีเงินเดือนส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 9,001 - 10,000 บาท น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่เป็นข้าราชการ ซึ่งมีเงินเดือนส่วนใหญ่อยู่ในช่วงตั้งแต่ 11,001 - 15,000 บาท สำหรับสถานที่ทำงานพบว่า ปัจจุบันทำงานอยู่ในโรงพยาบาลชุมชนมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 53.0 รองลงมาคือโรงพยาบาลศูนย์ร้อยละ 19.2 โรงพยาบาลทั่วไป ร้อยละ 13.5 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ร้อยละ 5.6 และโรงพยาบาลเฉพาะทางร้อยละ 4.0 และทางานเนวทยาลยพยาบาลหรอวทยาลยการสาธารณสุข องค์การบรหารสวนตาบลหรอองคการบรหารสวนจงหวัดและภาคเอกชน รวมกันคิดเป็นเพียงร้อยละ 3.3 (2) กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในเพื่อนร่วมงานมากที่สุดรองลงมาเป็นงานที่ทำ ในทางตรงกันข้ามมีความพึงพอใจต่อเงินเดือนที่ได้รับน้อยที่สุด รองลงมาเป็นตำแหน่งปัจจุบันและความก้าวหน้าของสายงาน (3) สถานภาพการทำงานปัจจุบันของกลุ่มตัวอย่างมีความสัมพันธ์กับการวางแผนเปลี่ยนงานหรือลาออกในอนาคตที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 นั่นคือ การวางแผนการเปลี่ยนงานหรือลาออก ขึ้นอยู่กับสถานภาพการทำงานปัจจุบัน โดยกลุ่มที่ไม่ใช่ข้าราชการมีแนวโน้มจะเปลี่ยนงานหรือลาออกสูงมากกว่ากลุ่มที่เป็นข้าราชการ และเมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ของสถานภาพการทำงานปัจจุบันกับสถาบันที่จบพบว่ามีความ สัมพันธ์กันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 นั่นคือสถานภาพการทำงานปัจจุบันที่เป็นข้าราชการหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถาบันที่จบด้วย โดยกลุ่มที่เป็นข้าราชการมีแนวโน้มจะจบจากวิทยาลัยพยาบาลภาคใต้สูงกว่าภาคอื่น ๆ ผลวิจัย ชี้ให้เห็นว่า การได้รับบรรจุเป็นข้าราชการภายหลังสำเร็จการศึกษามีผลต่อการตัดสินใจวางแผนงานในอนาคตมาก จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนากำลังคนทุกสาขาของสถาบันพระบรมราชชนก และของกระทรวงสาธารณสุขต่อไปในอนาคต โดยนอกจากจะวางแผนการผลิตอย่างไรให้เพียงพอแล้ว ยังคงต้องคำนึงถึงการธำรง รักษากำลังคนไว้ในระบบสุขภาพด้วย อย่างน้อยที่สุดนอกจากการมีงานทำที่มั่นคงในตำแหน่งข้าราชการหรือ พนักงานกระทรวงสาธารณสขแล้ว คงต้องให้ความสำคักกับความก้าวหน้าในสายงาน ของวิชาชีพนั้น ๆ ด้วย

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-30

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ