ความต้องการหลักประกันสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยแบบภาคตัดขวางมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการหลักประกันสุขภาพของแรงงานข้ามชาติในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาจำนวน 340 คน ถูกสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (accidental sampling) เก็บข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน มีค่าความสอดคล้อง( IOC) เท่ากับ 0.92 และสัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาคซ์ (Cronbach’s alpha coefficient) เท่ากับ 0.66, 0.87, 0.94 ตามลำดับ ดำเนินการเก็บข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายน – ตุลาคม พ.ศ. 2560 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ และสถิติ binary logistic regression ด้วยวิธี stepwise regression ผลการศึกษาพบว่า ภาพรวมแรงงานข้ามชาติมีความต้องการหลักประกันสุขภาพอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 93.2 และปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการหลักประกันสุขภาพพบว่า แรงงานข้ามชาติที่มีสัญชาติเมียนมามีความต้องการหลักประกันสุขภาพเป็น 3.998 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับแรงงานงานข้ามชาติอื่นๆ ส่วนแรงงานที่ได้รับการสนับสนุนด้านประกันสุขภาพจากสถานประกอบการมีความต้องการหลักประกันสุขภาพเป็น 0.296 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับหลักประกันสุขภาพอื่นๆ และการรับรู้ประโยชน์การมีหลักประกันสุขภาพมีความต้องการหลักประกันสุขภาพเป็น 11.068 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับแรงงานข้ามชาติที่ไม่รับรู้หลักประกันสุขภาพ การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าภาครัฐควรเพิ่มช่องทางในระบบประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์และการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับแรงงานข้ามชาติทุกคน