รูปแบบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี

ผู้แต่ง

  • พิกุล เสียงประเสริฐ นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง) มหาวิทยาลัยรังสิต
  • รัตพงษ์ สอนสุภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • สังศิต พิริยะรังสรรค์ มหาวิทยาลัยรังสิต

คำสำคัญ:

ผู้บริโภค, ผลิตภัณฑ์สุขภาพ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

บทคัดย่อ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ภาครัฐ และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และสร้างรูปแบบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ พื้นที่ศึกษาคือจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556โดยการวิเคราะห์และเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากรและกลุ่มตัวอย่างเพื่อหาความเข้าใจบนพื้นฐานของระเบียบวิธีอันมีลักษณะเฉพาะ ที่มุ่งการค้นหาประเด็น ปัญหาทางสังคม หรือปัญหาของมนุษย์อย่างละเอียด และดำเนินการ ศึกษาในสถานการณ์ที่เป็นจริง เก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มโดยผู้ให้ข้อมูลหลักคือ กลุ่มผู้รับผิดชอบงานคุ้มครอง ผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประกอบด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทั้งในระดับสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลชุมชน จำนวน 11 ราย ระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาลนครเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล) จำนวน 30 ราย อาสาสมัครสาธารณสุข (อ.ส.ม.) ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้เสีย จำนวน 10 ราย รวมทั้งสิ้น 51 ราย และยังทำการสัมภาษณ์เชิงลึก อีก 15 ราย ประกอบด้วย นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมโรงพยาบาลชุมชน (3 ราย) ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาล (8 ราย) และประธานอาสาสมัครสาธารณสุข (2 ราย) ผลการศึกษาในด้านความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ภาครัฐ พบว่า ผู้ผลิตยังขาดคุณธรรม มุ่งเน้นการขายโดยการใช้สื่อโฆษณาช่วย ผู้บริโภคขาดความรู้ความเข้าในผลิตภัณฑ์ ที่จะบริโภค เชื่อคล้อยตามคำโฆษณาภาครัฐ และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังคงประสบปัญหาในงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและขาดกลไกในการทำงาน ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ขาดการวางแผนด้านทรัพยากรมนุษย์ การอบรมและ พัฒนาบุคลากรไม่ตอบสนององค์การ ขาดระบบการนำข้อมูลจากการประเมินผลไปใช้แก้ไขงานต่างๆ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน จึงเกิดวงจรที่ผู้บริโภคร้องเรียนให้รัฐ ดำเนินการกับผู้ผลิตที่ไม่ได้คุณภาพเสมอมา ดังนั้นการสร้างรูปแบบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ จึงต้องครอบคลุมถึงผู้ผลิต ผู้บริโภค รัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การพัฒนาทุกภาคส่วนต้องเกิดขึ้น รูปแบบการทำงานต้องเป็นแบบสองทิศทาง คือ จากส่วนกลางลงไป ท้องถิ่น และจากท้องถิ่นก็สามารถขึ้นมาส่วนกลางได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานสูงสุด ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ว่า การทำงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจำเป็นต้องมีการประสานงานซึ่งกันและกันทุกภาคส่วน และแต่ละ ส่วนต้องพัฒนาองค์กรของตนเอง การคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ควรต้องมีการปฏิบัติงานในรูปแบบที่ประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้ P คือ Paricipation การมีส่วนร่วม Professional ความเชี่ยวชาญ I คือ Innovative Thinking และ Innovative Organization เป็นองค์กรนวัตกรรม K คือ KM การจัดการความรู้ และ KPI ตัวชี้วัดความสำเร็จ U คือ Unique อัตลักษณ์ของจังหวัด และ Unity ความเป็นหนึ่งเดียว L คือ Learning Organization เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-30

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ