ปัจจัยที่มีผลต่อระดับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ ในข้าราชการตำรวจ เขตภาคกลาง ประเทศไทย

บทคัดย่อ

การศึกษาภาคตัดขวางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ในข้าราชการตำรวจ กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้าราชการตำรวจที่สูบบุหรี่ สังกัดกองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1 เขตภาคกลาง ประเทศไทย จำนวน 390 คน สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบกลุ่มสองขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดให้ตัวอย่างตอบด้วยตัวเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและสถิติการถดถอยโลจิสติกลำดับ (ordinal logistic regression) เพื่อหาปัจจัยที่มีผลต่อระดับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ ผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 40.0 ของข้าราชการตำรวจที่สูบบุหรี่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ประมาณสองในสามสูบบุหรี่ มากกว่า 10 มวนต่อวัน ร้อยละ 10.5 ติดสารนิโคตินในระดับสูง ร้อยละ 82.8 ดื่มแอลกอฮอล์ และมีเพียงร้อยละ 17.7 ของข้าราชการตำรวจที่มีระดับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ในระดับมาก พบปัจจัยที่มีผลต่อระดับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนี้ ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ การติดสารนิโคตินในระดับต่ำ (OR=2.10, 95%CI=1.08-4.07) การไม่ดื่มแอลกอฮอล์(OR=1.75, 95%CI=1.03-2.97) ปัจจัยด้านทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน ได้แก่ เจตคติเชิงบวกต่อการเลิกสูบบุหรี่ (OR=2.31, 95%CI=1.32-4.04) การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในระดับที่สูงขึ้น (OR=3.59, 95%CI= 1.65-7.82) การรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรมที่มากขึ้น(OR=2.47, 95%CI=1.34-4.56) ผลการศึกษานี้เสนอแนะว่า ควรนำปัจจัย เจตคติต่อการเลิกสูบบุหรี่ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง และการรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรม เข้ามาสอดแทรกในกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกสูบบุหรี่ เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจมีระดับความตั้งใจ เลิกสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น