ผลของการสั่งจ่ายยาตามแนวปฏิบัติ GAI-3 ต่อผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรังชนิด Left Ventricular Systolic Dysfunction
คำสำคัญ:
GA1-S, ผลลัพธ์ทางคลินิก, ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง, left ventricular systolic dysfunctionบทคัดย่อ
โรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญซึ่งเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยการกลับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ปัจจุบันมีแนวทางมาตรฐานในการรักษาที่แสดงอย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพของการใช้ยาเพื่อการรักษาโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง แต่จากการศึกษาที่ผ่านมาพบ ว่ายังมีการใช้าต่ำกว่ามาตรฐานการรักษา การศึกษานี้ต้องการศึกษาผลของการสั่งจ่ายยาตาม GAT-3 ต่อผลลัพธ์ทางคลินิกและประเมินการสั่งจ่ายยาตามคำแนะนำของแนวทางมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังชนิด Left Ventricular Systolic Dysfunction ในโรงพยาบาลนครพิงค์ซึ่งเป็นศึกษาชนิด retrospective cohort study โดยศึกษาในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังชนิด Left Ventricular Systolic Dysfunction 93 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนครพิงค์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554 และติดตามการรักษาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 โดยประเมินการรักษาหลังจากออกจากโรงพยาบาลอย่างน้อย 3 เดือน โดยใช้คะแนนการประเมินการ สั่งจ่ายยาและคำแนะนำของแนวทางมาตรฐานการรักษาโรคหัวใจส้มเหลวเรื้อรัง (Guideline Adherence Indi-Cator, GAL-3) ตามแนวทางมาตราฐาน ACCIAHA 2009, ESC 2008 และ แนวทางมาตรฐานของประเทศไทย255เพบว่าผู้ป่วยที่มีคะแนน GA1-3 สูงนั้นจะมี อัตราการเกิด cardiac events น้อยที่สุดคือ 12.6 ต่อ 100 คน-ปี (person-years) และมีค่าเฉลี่ยของระยะเวลาปลอดเหตุการณ์นานที่สุดคือ 666.5 วัน และจะมีอัตราการเข้า รักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง (CHF hospitalization) น้อยที่สุดคือ 17.7 ต่อ 100 คน-ปี (person-years) และมีค่าเฉลี่ยของระบะเวลาปลอดเหตุการณ์นานที่สุดคือ 666.5 วันแต่พบว่าไม่มีความแตก-ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนการประเมินการสั่งจ่ายยาตามคำแนะนำของมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังทั้งในด้านข้อบ่งใช้ของขาอยู่ที่ร้อยละ 72.7 ชนิดของขาร้อยละ 85 และขนาดของยาร้อยละ 48 ผู้ป่วยได้รับขากลุ่ม ACEIsอยู่ที่ร้อยละ 68.5, ARBs ร้อยละ 44, B-blockers ร้อยละ 62, aldosterone an-tagonists ร้อยละ 58 และ diurtics ร้อยละ 98 สรุปผลการศึกษาผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังชนิด Left Ventriular Systolic Dysfunction ในโรงพยาบาลนครพิงค์นั้นพบว่าผู้ป่วยที่มีคะแนน GAL-3 สูงนั้นมีอัตราการเกิด cardiac events, อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังต่ำที่สุดและระยะเวลาปลอดเหตุการณ์ cardiac events และการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเรือรังนานที่สุดถึงแม้จะไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นข้อบ่งใช้ของยาและขนาดของยานั้นยังเป็นปัญหาหลักเมื่อใช้การประเมินการสั่งจ่ายยาตามคำแนะนำของมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังในโรงพยาบาลนครพิงค์
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

