วัณโรคที่สัมผัสในเด็กร่วมบ้านกับคนไข้วัณโรคปอดระยะแพร่เชื้อ
คำสำคัญ:
การค้นหาการติดเชื้อวัณโรคในเด็ก, Triad, วัณโรคระยะแฝงในเด็ก, วัณโรคในเด็กบทคัดย่อ
เด็กมักจะติดวัณโรคจากผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นวัณโรคปอดที่อยู่ร่วมบ้านเสมอ เด็กเล็กเมื่อรับเชื้อวัณโรคแล้ว มักป่วยเป็นวัณโรคชนิดรุนแรง วัณโรคในเด็กวินิจฉัยได้ยากเนื่องจากเด็กไม่ค่อยไอ ไม่ค่อยมีเสมหะทำให้โอกาสตรวจพบเชื้อวัณโรคน้อย การวินิจฉัยวัณโรคต้องใช้หลักฐานต่าง ๆ คืออาการและอาการแสดงต่างๆที่เข้าได้กับวัณโรค และข้อมูลอื่นอีกอย่างน้อย 2 ข้อ (Trad) ได้แก่ ภาพถ่ายรังสีทรวงอกมีความผิดปรกติที่เข้าได้กับวัณโรค การทดสอบปฏิกิริยาทุเบอร์ดุลินให้ผลบวก ประวัติการสัมผัสวัณโรคระยะแพร่เชื้อ และการแยกโรคที่คล้ายคลึงออก การวินิจฉัยยืนยันทางห้องปฏิบัติการคือการพบเชื้อวัณโรคจากการย้อมสีทนกรดและการเพาะเชื้อซึ่งถือเป็น definite diagnosis การตรวจวิธีอื่น ๆ ในปัจจุบันยังไม่นิยมทำในห้องปฏิบัติการทั่วไปการศึกษานี้ได้ใช้ Triad และศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วยนอกในเด็กอายุ 0-14 ปีที่มีประวัติสัมผัส ผู้ป่วยวัณโรคปอดระยะแพร่เชื้อในโรงพยาบาลบ้านโป่ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนกันยายน 2554 เพื่อหาอุบัติการณ์และการรักษาวัณโรคและวัณโรคระยะแฝง ผลการศึกษามีเด็กผู้สัมผัสร่วมบ้าน 173 ราย พบ อุบัติการณ์วัณโรคปอดในเด็ก ร้อยละ 8.67 (15 ราย) วัณโรคระยะแฝง ร้อยละ 33.52 (58 ราย) วัณโรคปอดในเด็กรับการรักษาครบ ร้อยละ 92.30 (12 ราย) วัณโรคระยะแฝงรับการรักษาครบ ร้อยละ 66.67 (38 ราย)ไม่มีเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคระยะแฝงป่วยเป็นวัณโรคจากการติดตามเป็นเวลา 18-24 เดือน การใช้ Triad อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถวินิจฉัยวัณโรคในเด็กได้ง่ายขึ้นและให้การดูแลรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก่อนที่จะเป็นวัณโรคชนิดรุนแรง ลดความพิการและการเสียชีวิต การค้นหาผู้สัมผัสและให้การรักษาเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของวัณโรคเป็นมาตรการสำคัญอันดับแรกของการบูรณาการนโยบายควบคุมวัณโรค
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

