ระบาดวิทยาและผลยืนยันการวินิจฉัย โรคสครับไทฟัส ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ผู้แต่ง

  • นิสา สิริสุขการ สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค
  • อัญชนา ประศาสน์วิทย์ สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค

คำสำคัญ:

โรคสครับไทฟัส, ระบาดวิทยา, การวินิจฉัย, สัตว์รังโรคและพาหะนำโรค

บทคัดย่อ

การศึกษาเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการและอุบัติการของโรคสครับไทฟัส รวมทั้งอัตราการติดเชื้อในสัตว์รังโรคและชนิดของแมลงพาหะนำโรคในพื้นที่ดำเนินงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประชากร ที่ศึกษาคือ ผู้ป่วยโรคสครับไทฟัสที่แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นด้วยอาการทางคลินิกในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ถึงเดือนสิงหาคม 2547 จำนวน 100 ราย ทุกรายเจาะโลหิต 10 มิลลิลิตร ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อ ยืนยันการวินิจฉัยด้วยวิธี IFA (Indirect Immunofluorescent Antibody) ในครั้งแรกเพื่อหา IgM พบว่าให้ผลบวกกับสครับไทฟัสร้อยละ 16 และมิวรีนไทฟัส ร้อยละ 1 หลังจาก 1-2 สัปดาห์ติดตามผู้ป่วยเพื่อเจาะเลือดครั้งที่ 2 และซักประวัติการสัมผัสโรค ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์เพียง 77 ราย ในจำนวนนี้มีผลตรวจ ยืนยันโรคสครับไทฟัสทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี IFA (IgM) เพียง 14 ราย ช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยมากอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 1.2 เท่า อัตราการติดเชื้อสครับไทฟัสจากการตรวจยืนยันทางน้ำเหลืองวิทยาพบในเพศหญิง (ร้อยละ 19.0) มากกว่าเพศชาย (ร้อยละ 17.1) กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือ 45-59 ปี ลักษณะอาการแสดงสำคัญที่พบมากในผู้ป่วยคือ ไข้เฉียบพลัน ปวด ศีรษะและปวดเมื่อยตัว ตามลำดับ ในการศึกษาครั้งนี้ไม่พบรอยแผลคล้ายบุหรี่จี้ อาชีพของผู้ป่วยส่วนมากทำสวน / ทำไร่ / ตัดยาง และรับจ้าง ผลการสำรวจสัตว์รังโรค ดักสัตว์รังโรคได้ 34 ตัว จากพื้นที่ 6 แห่ง คิดเป็น percent trap success 14.05 เป็นหนูท้องขาว (Rattus rattus) ร้อยละ 52.9 กระแต (Tupaia glis) ร้อยละ 29.4 หนูจี๊ด (R.exulans) และกระรอกข้างลาย (Menetes berdmorei) ร้อยละ 8.8 เท่ากัน เก็บไร-อ่อนได้ทั้งหมด 1,644 ตัวจากสัตว์รังโรค 25 ตัว คิดเป็น infested rate 73.5 เป็นไรชนิด Ascoschoengastia indica (พาหะรอง) ร้อยละ 82.9 Leptotrombidium deliense ร้อยละ 11.7 หิด (Sacoptes scabiei) ร้อยละ 1.1 และ Tropical rat mite ร้อยละ 0.3 อัตราการติดเชื้อในสัตว์รังโรค พบว่าสัตว์ที่ดักได้จากบริเวณบ้านผู้ป่วยในบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางสะพานมีการติดเชื้อสูงสุดร้อยละ 50 การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า การวินิจฉัยผู้ป่วยอย่างถูกต้องคือ เจาะเลือดตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี IFA และควรคำนึงถึงโรคอื่นในกลุ่มที่มีอาการทางคลินิกคล้าย ๆ กันด้วย นอกจากนี้ควรมีการให้สุขศึกษาเพื่อป้องกันโรค กับกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากการประกอบอาชีพและผู้ที่มีความจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-12

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ