การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในชุมชน ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

ผู้แต่ง

  • รัศมี สุขนรินทร์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก
  • ฉัตรชัยกานท์ สุขนรินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), การดูแลผู้ป่วยแบบบัดดี้, การเสริมพลังอำนาจ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลรูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิด  ที่ 2 ในชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในจังหวัดพิษณุโลก การวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาสถานการณ์ด้วยการสนทนากลุ่ม 13 คน สอบถาม อสม. 397 คน และผู้ป่วยเบาหวาน 407 คน 2) การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมดูแลผู้ป่วยเบาหวาน 3) ทดลองใช้โปรแกรมกับ อสม. โดยจับคู่ดูแลผู้ป่วย 32 คน สร้างกลุ่มไลน์สนับสนุนการดำเนินงาน และ 4) ประเมินความรอบรู้ ความรู้ ทักษะในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานของ อสม. พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วย และความพึงพอใจต่อรูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน

ผลวิจัย พบว่า รูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานของ อสม. ดำเนินด้วยการเสริมพลังอำนาจเชิงจิตวิทยา โดยการอบรมความรู้ การสร้างความรอบรู้สุขภาพ การฝึกทักษะ และการเสริมพลังอำนาจเชิงโครงสร้างโดยการมอบบทบาทหน้าที่ การสนับสนุนเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิตอล การจับคู่บัดดี้ การจัดตั้งกลุ่มไลน์ ซึ่งส่งผลให้ อสม. มีความรู้ในโรคเบาหวาน มีความรอบรู้และความสามารถในการสื่อสาร ความเชื่อมั่นในสมรรถนะตนเอง การมีช่องทางสื่อสาร ความไว้วางใจของคู่บัดดี้ หลังทดลองใช้รูปแบบ พบว่า อสม.มีคะแนนความรอบรู้ ความรู้ และทักษะขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสุขภาพดีขึ้น ค่าน้ำตาลในเลือดปลายนิ้วลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (p<.001) ทั้ง อสม.และผู้ป่วยพึงพอใจต่อโปรแกรมฯ ในระดับมาก ดังนั้น จึงควรนำหลักการเสริมพลังอำนาจ โดยการพัฒนาความรอบรู้สุขภาพ การฝึกทักษะการดูแลผู้ป่วย การดูแลผู้ป่วยแบบบัดดี้ และการตั้งกลุ่มไลน์มาใช้ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุข

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค. (2566). รายงานสถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทย. กระทรวงสาธารณสุข. https://ddc.moph.go.th/uploads/files/4155620240314033823.pdf.

ณัฐญา ศรีบุญเรือง และคณะ. (2563). การพัฒนาศักยภาพอสม.ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง. วารสารสาธารณสุขชุมชน, 16(2), 45–56.

ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา, พนม คลี่ฉายา และคณะ. (2566). สถานการณ์โรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงสุขภาพของคนไทย. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการสาธารณสุข.

ศิริพร ขำดี และคณะ. (2562). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารพยาบาลศาสตร์, 36(2), 112–120.

สุภาภรณ์ สุดหนองบัว. (2562). คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ: สถานการณ์และการดูแลด้านสุขภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮาส์.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก. (2567). รายงานประจำปี 2566 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก. https://cloud.plkhealth.go.th.

Chen, L., et al. (2019). Community health workers’ role in diabetes management in rural China. BMC Public Health, 19, 1471. https://doi.org/10.1186/s12889-019-7815-2.

Heisler, M. (2007). Overview of peer support models to improve diabetes self-management and clinical outcomes. Diabetes Spectrum, 20(4), 214–221. https://doi.org/10.2337/diaspect.20.4.214

Lee, Y. J., et al. (2018). Effect of peer support on diabetes self-management and glycemic control in Korea. Patient Education and Counseling, 101(4), 710–718. https://doi.org/10.1016/j.pec.2017.11.006

Polit, D. F., & Beck, C. T. (2008). Nursing research: Generating and assessing evidence for nursing practice (8th ed.). Wolters Kluwer Health/Lippincott Williams & Wilkins.

Wagner, E. H., Austin, B. T., & Von Korff, M. (2001). Organizing care for patients with chronic illness. The Milbank Quarterly, 79(4), 511–544. https://doi.org/10.1111/1468-0009.00214

World Health Organization. (2021). Global strategy on digital health 2020–2025. Geneva: WHO. https://www.who.int/publications/i/item/9789240020924

World Health Organization. (2022). Noncommunicable diseases. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/noncommunicable-diseases

Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). Harper and Row.

Zimmerman, M. A. (2000). Empowerment theory. In J. Rappaport & E. Seidman (Eds.), Handbook of community psychology (pp. 43–63). Springer. https://doi.org/10.1007/978-1-4615-4193-62

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-12