ผลของโปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

ผู้แต่ง

  • Parichat Kanjanapangha โรงพยาบาลลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

คำสำคัญ:

โปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกัน,ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ,ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม

บทคัดย่อ

บทนำ:

โรคเบาหวานเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพปัจจุบันทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมากเนื่องจากเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ โดยเฉพาะโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้

วัตถุประสงค์ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสถานการณ์ ปัญหา การควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ในอำเภอลับแล และแนวทางการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบองค์ประกอบของโปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 3)เพื่อทดลองใช้และศึกษาผลการใช้โปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการใช้โปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

วิธีวิจัย:การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยใช้สรุปผลงานประจำปี 2566 ของโรงพยาบาลลับแล การทบทวนวรรณกรรม โดยใช้แบบบันทึกข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย เช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis)  ในการศึกษาของวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ใช้การทบทวนวรรณกรรม ใช้แบบบันทึกข้อมูลการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (Semi- Structure Interview) และแบบวิเคราะห์องค์ประกอบ(Matrix table) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis) ในการศึกษาของวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ใช้แบบแผนกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Design) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงบรรยายเช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ F ใน  ANOVA ของแผนการทดลองแบบวัดซ้ำ (repeated measures design)  ในการศึกษาของวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 แล้วใช้สถิติเชิงบรรยาย เช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการศึกษาของวัตถุประสงค์ข้อที่ 4

ผลการวิจัย : ผลการศึกษาพบว่า

1) การควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ในอำเภอลับแล ยังไม่ผ่านตัวชี้วัด และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องมีส่วนร่วมในการสร้างแนวทางการควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

2) องค์ประกอบของโปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุม

ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ มี 8 องค์ประกอบย่อย คือ (1) ด้านการมีปฎิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมาย (2) ด้านการประเมิน (3) ด้านการมีทักษะการตัดสินใจ (4) ด้านการกำหนดปัญหาร่วมกัน (5) ด้านการเลือกวิธีปฏิบัติ (6) การวางแผน/การกำหนดเป้าหมาย (7) ด้านการปฏิบัติตามวิธีที่เลือกไว้/ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการตนเองตามเป้าหมายที่กำหนด และ (8) ด้านการประเมินความสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย และมีคุณภาพอยู่ ในระดับดี

3) ผลการทดลองใช้โปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันมีความเหมาะสมและ

สามารถนำไปในการจัดทำคู่มือการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

4) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความพึงพอใจระดับดีจากการใช้ประโยชน์ของโปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลสะสมเฉลี่ยในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

 

อภิปรายและสรุปผลการวิจัย:การศึกษาวิจัยในครั้งนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าผลของโปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันมีความเหมาะสมและสามารถนำไปใช้ในการจัดทำคู่มือการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

 

คำสำคัญ: โปรแกรมการพยาบาลแบบตั้งเป้าหมายร่วมกัน,ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

,ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม

เอกสารอ้างอิง

กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลลับแล. (2566) โครงการปรับเปลี่ยน

พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับโรคในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ปี2566.(รายงานผลดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ เดือน พฤษภาคม 2566) โรงพยาบาลลับแล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

กานต์ชนก สุทธิผล .(2563). ปัจจัยที่มีผลต่อการคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน

ชนิดที่ 2. มหาราชนครศรีธรรมราชวารสารปีที่ 5 ฉบับที่ 2 (2022): มกราคม 2565 - มิถุนายน 2565

จุรีพร คงประเสริฐและคณะ. ( 2565).คู่มือการดำเนินงานคลินิก NCD Clinic plus คุณภาพ.

กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.

จีรพัชร ทานุเมาะ,นงนุช โอบะและสมบูรณ์ ตันสุภสวัสดิกุล (2559) ผลของโปรแกรมความสำเร็จตามจุดมุ่งหมายต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง.วารสารการพยาบาลและสุขภาพ ปีที่ 10 ,ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม 2559

ชัชลิต รัตรสาร.(2560).สถานการณ์ปัจจุบัน และความร่วมมือเพื่อ ปฏิรูปการดูแลรักษาโรค

เบาหวานในประเทศไทย การยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษา และ ขยายการเข้าถึงการรักษาโรคเบาหวานนำไปสู่สังคมสุขภาพที่ยั่งยืน . The Blueprint for Changeและกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงาน ประกันสุขภาพแห่งชาติ

ไชยา ท่าแดง และคณะ .(2563) ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อการรับรู้สมรรถนะแห่งตน

พฤติกรรมการจัดการตนเองระดับน้ำตาลในเลือดและระดับน้ำตาลเกาะสะสมเม็ดเลือดแดง ของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, ฉบับที่ 40(4 ) ตุลาคม - ธันวาคม 2563: 61-73

ธัญญาลักษณ์ แซ่ตั้ง. (2565). "ประสิทธิผลในการควบคุมระดับนํ้าตาลโดยการใช้ระบบการติดตามแบบทางไกลและการให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างเป็นระบบในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รักษาด้วยอินซูลิน และควบคุมระดับนํ้าตาลไม่ถึงเป้าหมาย" Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 6737.

นพนัฐ จำปาเทศ และคณะ. (2561) บทบาทพยาบาลในการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถ

ของตนเองในผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวาน. วารสาร มฉก.วิชาการ 1ปีที่ 21 ฉบับที่ 42 มกราคม - มิถุนายน 2561

ปราณี ศรีสงคราม,สุภาณี วาจาดี,นพรัตน์ จันทร์ฉาย. (2563). ผลของ โปรแกรมการจัดการ

ตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและระดับน้ำตาลใน เลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2.

วารสารอนามัย สิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 5(1), 84-94.

เพ็ญศรี รอดพรม และคณะ.(2565 ) ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลัง อำนาจในผู้ป่วย

เบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์,ฉบับที่ 9(5), 300-312.

เริงฤทธิ์ ทองอยู่ ,ดวงพร ปิยะคง และ สมลักษณ์ เทพสุริยานนท์. (2562) ผลของโปรแกรมการ

พยาบาลอย่างมีเป้าหมายร่วมกันต่อความสามารถ ในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพปีที่ 37 ฉบับที่ 2 : เมษายน - มิถุนายน 2562

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย.(2560).แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน พ.ศ.

พิมพ์ครั้งที่ 2 ปทุมธานี : ร่มเย็น มีเดีย

สุมณี วัชรสินธุ์, ศสมน ศรีสุทธิศักดิ์ และคณะ.(2559 )คู่มือการดำเนินงานประเมินคุณกาพ NCD

Clinic plus,สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2558). คู่มือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในคลินิก NCD คุณภาพ. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

สุกฤตา ตะการีย์. (2557) ผลลัพธ์ของการพยาบาลที่มีการตั้งเป้าหมายร่วมกันในการฉีดอินซูลิน

ด้วยตนเองในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2. Thai Journal of Nursing, 68(3), 48-55.

สุจิรา พรมทองบุญ.(2558) ผลของโปรแกรมการตั้งเป้าหมายร่วมต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง

และ ค่าฮีมาโตคริตในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Doctoral dissertation, มหาวิทยาลัย สงขลา นครินทร์).

สลิดา รันนันท์, และพาพร เหล่าสีนาท ,2562).การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการ พยาบาลเพื่อ

ส่งเสริมการจัดการตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ โรงพยาบาลกันทรวิชัยจังหวัดมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม,16(3), 138-148.

สิระ บูชา. (2563). ประสิทธิผลการเยี่ยมบ้านโดยเภสัชกรที่มีต่อความร่วมมือ ในการใช้ยาและ

การควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิด ที่ 2 อำเภอ เต่างอย จังหวัดสกลนคร. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 15(1), 1-16.

วิชัย เอกพลากร และคณะ.(2564). การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่

(Thai National Health Examination Survey, NHES 6 พ.ศ 2562-2563).คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พิมพ์ครั้งที่1 กันยายน 2564 สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน

วิโรจน์ เจียมจรัสรังสี. (2561).โรคเบาหวานชนิดที่ 2 : การป้องกันและการสนับสนุนการจัดการ

ตนเอง. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วัชราพร เนตรคำยวง (2566) ผลของการพัฒนา รูปแบบการจัดการตนเองของผู้ป่วย

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ ควบคุมระดับ น้ำตาลไม่ได้โรงพยาบาลบ้านธิจังหวัดลำพูน. Journal

of Nursing and Public Health Research, 3(2), 78-95.

อุไรวรรณ พานทอง และคณะ. (2563). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อพฤติกรรม

การดูแลตนเองระดับ HbA1C และผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมน้ำตาลไม่ ได้.วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 30(1), 14-24.

อำนาจ บุญเครือชู และปาริชาติ กาญจนพังคะ (2566) ประสิทธิผลรูปแบบการสร้างเสริม

สุขภาพแนวใหม่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลลับแล. วารสารวิชาการป้องกันควบคุม

โรค สคร.2 พิษณุโลกปีที่ 10 ฉบับที่ 1 มกราคม- เมษายน 2566

Adib-Hajbaghery, M., & Tahmouresi, M. (2018). Nurse–patient relationship based on the imogene king's theory of goal attainment. Nursing and Midwifery Studies, 7(3), 141.

American Diabetes Association. (2017).Clinical Diabetes Standards of Medical Care in

Diabetes—2017 Abridged for Primary Care Providers. Clin Diabetes 2017; 35(1),

–26. doi:10.2337/cd16-0067

Angelica Bottaro .(2022). Can stress cause high blood sugar?. Retrieved 3 March

, from https://www.verywellhealth.com/can-stress-cause-high-blood-sugar-

#citation-1 <251>.

Araújo, E. S. S., Silva, L. D. F. D., Moreira, T. M. M., Almeida, P. C. D., Freitas, M. C. D., &

Guedes, M. V. C. (2018). Nursing care to patients with diabetes based on King’s Theory. Revista brasileira de enfermagem, 71, 1092-1098.

Boonda, P., Preedeekul, A.(2016). Developing of Training Program to Develop

Competency of Regional Operating Officer (ROO) in the Virtual Service Provider

Office (VSPO) in Thailand. In a Volume of WIT Transactions of the 8th

International Conference on Sustainable Development and Planning. Wessex Institute, UK. Penang: Malaysia.

Boonda, P. (2018). Main Steps of Doing Research and Development in Public Health. Med J Clin Trials Case Stud, 2(10): 000183. DOI: 10.23880/mjccs-16000183.

Boonda, P. (2019). Techniques for Writing Chapter I of Research and Development in Public Health. Med J Clin Trials Case Stud, 3(4): 000222. DOI: 10.23880/mjccs-16000222

Boonda, P. (2020). A Technique of Modeling in Public Health Research and

Development, World Journal of Public Health. 5(4):pp. 89-98. doi:10.11648/j.wjph.20200504.13

Boonda P. (2019) Process of Research and Development in Public Health. Int J Clin

Case Stud Rep, 1(3): 61-65.

Boonda, P. (2021). Main Steps of Doing Research and Development in Public Health:

An Observational Study. New Frontiers in Medicine and Medical Research Vol. 14, 80–86.

Boonda, P. (2021). Techniques of Writing Chapter 1 for Research and Development

in Public Health.New Frontiers in Medicine and Medical Research Vol. 14,

–79.

Cheng, W. L. S. (2018). The effects of mutual goal-setting practice in older adults

with chronic illness. Geriatric Nursing, 39(2), 143-150.

IDF DIABETES ATLAS 10th edition. (2021) Retrieved 3 March 2023, from

https://diabetesatlas.org/

King, I.M. (1981). A theory or nursing: Systems, concepts, process. New York: A wiley

publication. P143

King, I. M. (1997). King's theory of goal attainment in practice. Nursing Science

Quarterly, 10(4), 180-185.

Lafata, J. E., Morris, H. L., Dobie, E., Heisler, M., Werner, R. M., & Dumenci, L. (2013).

Patient- reported use of collaborative goal setting and glycemic control among patients with diabetes. Patient education and counseling, 92(1), 94-99.

Meyerson, K. L., & Kline, K. S. (2009). Qualitative analysis of a mutual goal-setting

intervention in participants with heart failure. Heart & lung, 38(1), 1-9

Payamani F, Khatiban M, Soltanian A, Ghiasian M, Borzou SR. The effect of applying

the nursing process based on the Theory of Goal Attainment on activities of daily living and quality of life in persons with multiple sclerosis during COVID-19 pandemic: a clinical trial. Ir J Med Sci. 2022 Jul 25:1–9. doi: 10.1007/s11845-022-03104-9. Epub ahead of print.

Phongpisanu B. (2018). Main Steps of Doing Research and Development in Public

Health. Med J Clin Trials Case Stud, 2(10): 000183. DOI: 10.23880/mjccs16000183.

Phongpisanu B. (2019). Techniques for Writing Chapter I of Research and

Development in Public Health. Med J Clin Trials Case Stud, 3(4): 000222. DOI: 10.23880/mjccs-16000222

Phongpisanu, B.. (2021). Teaching in doing a research and development theme of public health administration subject. Request for information No.398061, Issued on: Oct. 18, 2021.

Phongpisanu Boonda. A Technique of Modeling in Public Health Research and

Development, World Journal of Public Health. Volume 5, Issue 4, December 2020 , pp. 89-98. doi:10.11648/j.wjph.20200504.13

Phongpisanu B. A Technique of Modeling in Public Health Research and

Development. World Journal of Public Health, 5(4), 2020, pp. 89-98.

doi:10.11648/j.wjph.20200504.13

World Health Organization. (1999). Definition, diagnosis and classification of

diabetes mellitus and its complications: report of a WHO consultation.

Part1,Diagnosis and classification of diabetes mellitus (No. WHO/NCD/NCS/99.2). World health organization.

World Health Organization.(2019). Classification of diabetes mellitus.

Yura, H., & Walsh, M. (1983). The nursing process. Norwalk, CT: Appleton-

Century-Crofts

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-08-31