การพัฒนารูปแบบการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี

บทคัดย่อ

ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ และผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกปี ผู้สูงอายุมีความเสื่อมของร่างกาย ส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มจึงเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากส่งผลกระทบด้านร่างกาย ด้านจิตใจ หรือสูญเสียความมั่นใจในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันลดลง การวิจัยและพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนารูปแบบการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ระยะ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงพลัดตกหกล้ม จำนวน 15 คน เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ แบบประเมินความสามารถในการทรงตัวและแบบประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และทดสอบด้วยสถิติที Dependent t-test  ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้สูงอายุมีอายุเฉลี่ย 73.46 ปี น้ำหนักเฉลี่ย 68.55 กิโลกรัม ดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์เริ่มอ้วนในระดับหนึ่ง มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 27.33 และรอบเอวเฉลี่ย 92.73 เซนติเมตร มีโรคประจำตัว ร้อยละ 86.67 รับประทานยามากกว่า 4 ชนิดขึ้นไป ร้อยละ 53.33 ความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ได้แก่ มีปัญหาการทรงตัวและมีอาการสายตาผิดปกติร้อยละ 86.67 และ 53.33 ตามลำดับ ร้อยละ 86.66 ยังไม่เคยหกล้มในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และโดยส่วนใหญ่อาศัยในบ้านที่มีพื้นสูงน้อยกว่า 1.5 เมตร ร้อยละ 66.67 2) รูปแบบการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ และมีการติดตามอย่างต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่ร่วมกับ อสม. กิจกรรมประกอบด้วย การประเมินสถานการณ์เบื้องต้น การเสริมสร้างประสบการณ์ความสำเร็จ การเสริมสร้างประสบการณ์โดยการสังเกต การเสริมสร้างโดยการชี้แนะทางวาจา การจัดการภาวะทางกายภาพและอารมณ์ และการปรับสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีเสริม และ 3) ภายหลังการทดลอง พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการทรงตัว สูงกว่าก่อนการทดลอง 4.20 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (95% CI = 1.73 - 6.67, p< .001) และค่าคะแนนเฉลี่ยความเสี่ยงในการหกล้ม ต่ำกว่าก่อนการทดลอง 5.03 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (95% CI = 2.97-7.08, p< .001)