การใส่เครื่องมือปรับโครงสร้างจมูกและขากรรไกรบนสำหรับทารกปากแหว่งเพดานโหว่ทางด้านซ้ายแบบสมบูรณ์

ณัฐกานต์ ไตรตานนท์

ผู้แต่ง

ณัฐกานต์ ไตรตานนท์ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

คำสำคัญ:

ปากแหว่งเพดานโหว่, เครื่องมือปรับโครงสร้างจมูกและขากรรไกรบน

บทคัดย่อ

เครื่องมือปรับโครงสร้างจมูกและขากรรไกรบน (Nasoalveolar molding: NAM) มีบทบาทในการช่วยแก้ไขปัญหาการให้นมสำหรับทารกปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อช่วยปิดช่องติดต่อระหว่างช่องปากกับช่องจมูกทำให้ทารกสามารถดูดนมได้ดีขึ้น ลดปัญหาสำลัก โดยใช้ร่วมกับแผ่นคาดปาก (Extraoral strapping) เพื่อเตรียมทารกก่อนการเย็บซ่อมแซมริมฝีปาก นอกจากนี้เพดานเทียมยังมีส่วนประกอบที่แกนดันปลายจมูกเพื่อปรับรูปร่างจมูกให้มีความสมมาตรกันมากขึ้น ส่งเสริมให้ การผ่าตัดง่ายและได้ผลดีมากยิ่งขึ้น1
รายงานผู้ป่วยนี้เป็นการนำเสนอการรักษาผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่จำนวน 1 ราย เป็นทารกเพศชาย อายุ 2 วัน มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดสมบูรณ์ ที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่องมือปรับโครงสร้างจมูกและขากรรไกรบน เมื่อทารกได้รับการรักษาด้วยเครื่องมือชนิดนี้ก่อนการผ่าตัดริมฝีปาก จะทำให้ผู้ปกครองมีกำลังใจในการดูแลทารกปากแหว่งเพดานโหว่และเห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ ทารกดูดนมได้ดีขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น รอยแยกของปากแคบลง จมูกและปากมีลักษณะรูปร่างใกล้เคียงปกติและสมมาตรมากขึ้น ต่อมาเมื่อได้รับการผ่าตัด ทารกจะสามารถเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ใกล้เคียงปกติได้ทั้งการกิน การออกเสียง สภาพใบหน้า และการยอมรับทางสังคม

คำสำคัญ: ปากแหว่งเพดานโหว่ เครื่องมือปรับโครงสร้างจมูกและขากรรไกรบน

เอกสารอ้างอิง

Grayson BH, Cutting CB. Presurgical nasoalveolar orthopedic moulding in primary correction of the nose, lip and alveolus of infants born with unilateral and bilateral clefts. Cleft Palate-Craniofac J. 2001; 38:193–8.

Chowchuen B, Thanaviratananich S, Chicharoen V, Kamolnate A, Uewichitrapochana C, Godfrey K. A multisite study of oral clefts and associated abnormalities in Thailand: the epidemiologic data. Plast Reconstr Surg Glob Open. 2016.

Kernahan D., Stark R. A new classification for cleft lip and cleft palate. Plast Reconstr Surg Transplant Bull. 1958 Nov;22(5):435-41. doi: 10.1097/00006534-195811000-00001. PMID: 13601148.

สุพจน์ ตามสายลม. ศัลยกรรมตกแต่งปริทันต์ขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: บริษัท แดเน็กซ์ อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด; 2555.

Thomus M. Graber et al. Orthodontics current principles & techniques. 4thedition. Elsevier Inc; 2005.

Ravindra N. Biomechanics in clinical orthodontics. 1stedition. W B Sounders Company; 1997.

Hotz M. Aims and possibillties of pre-and post-surgical orthopedic treatment in uni-and bilateral clefts. Trans Eur Orthod Soc 1973; 553-8.

Lubit E. Cleft palate orthopedics: why, when, how. Am J Orthod 1976; 69: 562-71.

Oliver H. Neonatal orthodontics. Trans Eur Orthod Soc 1973: 562-3.

Brogan WF, McComb H. The early management of cleft lip and palate deformitlies. Aust Dent J 1973; 18: 212-7.

Grayson BH, Cutting C, Wood R. Preoperative columella lengthening in bilateral cleft lip and palate. Plast Reconst Surg 1993; 92: 1422-1423.

Lo L-J. Primary correction of the unilateral cleft lip nasal deformity: achieving the excellence. Chang Gung Med J 2006; 29: 262-267.

Godfrey K. Orthodontic treatment for cleft palate patient in dental care and treatment for cleft lip and palate. Khon Kaen: Faculty of Dentistry, Khon Kaen University; 1992.

Subtelny JD. Oral orthopaedics of cleft paplate: when and why. In: Early treatment of cleft lip and palate, interational symposium. University of Zurich, Dental Institute. Berne: Hans Huber. Publishers; 1964.

Matsuo K, Hirose T, Otagiri T, Norose N. Repair of cleft lip with nonsurgical correction of nasal deformity in the early neonatal period. Plast Reconstr Surg 1989; 83:25-31.

มารศรี ชัยวรวิทย์กุล (บรรณาธิการ). การดูแลรักษาผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่สำหรับทันตแพทย์และทันตแพทย์จัดฟัน เล่ม 1. เชียงใหม่: ทรีโอ แอดเวอร์ไทซิ่งแอนด์มีเดีย; 2555. หน้า 105-52.

Gibson E, Pfeifauf KD, Skolnick GB, KimA, Naidoo SD, Snyder-Warwick A, et al. Presurgical orthopedic intervention priorto cleft lip and palate repair: nasoalveolarmolding versus passive molding appliance therapy. J Cranio Surg 2021; 32(2):486-91.