ผลของยา Diltiazem ร่วมกับยา ACEI/ARB เพื่อชะลอการวเสื่อมของโรคไตจากเบาหวาน; Effect of Diltiazem and ACEI/ARB to prolong Progression of Diabetic Nephropathy

ผู้แต่ง

  • Saksan Phawattanakul

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์           :   เพื่อศึกษาผลการชะลอการเสื่อมของโรคไตจากเบาหวานโดยใช้ยา Diltiazemร่วมกับยา ACEI/ARB เปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยา ACEI/ARB เพียงอย่างเดียว

สถานที่ศึกษา          :    แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอุทัยธานี

รูปแบบการวิจัย       :    Prospective randomized single-blinded trial

กลุ่มตัวอย่าง          :   ผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวานที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตได้ตามเกณฑ์ซึ่งได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลอุทัยธานีตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2560 ถึง 11 ตุลาคม 2561 จำนวน 70 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลองได้รับยา Diltiazem ร่วมกับยา ACEI/ARB จำนวน 36 คน และกลุ่มควบคุมได้รับยา ACEI/ARB อย่างเดียว จำนวน 34 คน

วิธีการศึกษา           :   ติดตามการรักษาไปจนครบ 1 ปี เปรียบเทียบอัตราการกรองของไต ปริมาณโปรตีนในปัสสาวะ ความดันโลหิตและระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดระหว่างสองกลุ่ม

ผลการศึกษา           :   เมื่อสิ้นสุดการรักษา 1 ปีพบว่าผู้ป่วยในกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยของปริมาณโปรตีนในปัสสาวะเปลี่ยนแปลงจาก 520.7 มิลลิกรัม/กรัม เป็น 190.1 มิลลิกรัม/กรัม และผู้ป่วยในกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยของปริมาณโปรตีนในปัสสาวะจาก 803.7 มิลลิกรัม/กรัม เป็น 833.0 มิลลิกรัม/กรัม (P<0.001) ผู้ป่วยในกลุ่มทดลองมีการลดลงของอัตรากรองของไตการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต (mean arterial pressure) และระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1C) ไม่แตกต่างกับผู้ป่วยในกลุ่มควบคุมผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้ป่วยหยุดการวิจัยโดยไม่เกี่ยวกับอัตรากรองของไตที่ลดลง ได้แก่ อาการบวมของขาในกลุ่มทดลอง 1 ราย

สรุป                    :   ในผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคุมความดันโลหิตสูงได้ดีแล้วการเพิ่มยา Diltiazem ร่วมกับยา ACEI/ARB  มีประโยชน์ในการลดปริมาณโปรตีนในปัสสาวะได้ดีขึ้น

คำสำคัญ               :   ยา Diltiazem, โปรตีนในปัสสาวะ, การชะลอการเสื่อมของโรคไต, ไตจากเบาหวาน


Abstract

Objective      :     To study the renoprotective effects of the combinations of Diltiazem and ACEI/ARB treatment compared with the ACEI/ARB treatment of diabetic nephropathy.

Setting          :     Out-patient department at Uthaithani Hospital, Uthaithani

Design          :     Prospective randomized single-blinded trial

Subjects        :     All 70 diabetic nephropathy patients who were well controlled of blood sugar and blood pressure, continuing treated at Uthaithani Hospital during 12th October 2017 and 11th October 2018. Patients were randomized to the treatment group (diltiazem + ACEI/ARB) 36 cases and control group (ACEI/ARB) 34 cases.

Method         :     The follow-up period was one year of treatment. Analyzing with descriptive statistics to compare the glomerular fitration rate, the proteinuria, blood pressure and HbA1C between two groups.

Result           :     The mean of proteinuria in treatment group was reduced from 520.7 mg/g to 190.1 mg/g but the proteinuria was increased from 803.7 mg/g to 833.0 mg/g in the control group. It showed the proteinuria of the treatment group was significantly lower than control group (P<0.001). The glomerular filtration rate, mean arterial pressure and HbA1C were not different in both groups. One patient left the group of treatment due to pedal edema but it did not related with the glomerular filtration rate.

Conclusion    :     This study reveals that the combination of Diltiazem and ACE/ARB can reduce proteinuria in diabetic nephropathy with good control of blood pressure and HbA1C.

Keywords      :     Diltiazem, Proteinuria, Prolong progression, Diabetic nephropathy

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-07

วิธีการอ้างอิง

Phawattanakul, Saksan. 2019. “ผลของยา Diltiazem ร่วมกับยา ACEI/ARB เพื่อชะลอการวเสื่อมของโรคไตจากเบาหวาน; Effect of Diltiazem and ACEI/ARB to Prolong Progression of Diabetic Nephropathy”. Region 3 Medical and Public Health Journal - วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 16 (1). Nakhonsawan Thailand:11-22. https://thaidj.org/index.php/smj/article/view/6448.

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)