Research Series of Thai Health Care Financing: Part 1 Financial Care Coverage in Thailand - ชุดวิจัยการเงินการคลังระบบสุขภาพไทย : ตอนที่ ๑ แนวทางการปฏิรูปการเงินการคลัง หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

Authors

  • Walaiporn Patcharanarumol
  • Michael Cichon
  • Viroj Tangcharoensathien
  • Chitpranee Vasvid
  • Kanjana Tisayaticom

Abstract

บทคัดย่อ

งานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ครอบคลุมประชากรไทยร้อยละ ๗๕ แต่ได้รับงบประมาณอุดหนุนด้วยอัตราเหมาจ่ายรายหัวที่จำกัดต่ำกว่าข้อเท็จจริงของอัตราการใช้ และต้นทุนบริการ และมีปัญหาความยั่งยืนทางการเงินระยะยาวของงานนี้ การศึกษานี้วิเคราะห์และเสนอ แนวทางการปฏิรูปการเงินการคลังของงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดำเนินการศึกษาระหว่าง เดือนมกราคม ถึงธันวาคม ๒๕๔๗ โดยการประมาณการรายจ่ายสุขภาพระยะยาวของประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๗ - ๒๕๖๓ โดยใช้แบบจำลองสี่แบบ เพื่อคาดคะเนด้านประชากรและแรงงาน ด้านเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และงบประมาณของรัฐบาล โดยใช้ฐานข้อมูลประชากรและเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สถิติแรงงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ บัญชีรายจ่าย สุขภาพแห่งชาติของสำนักพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ข้อมูลงบประมาณประจำปีของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง นอกจากนี้ อาศัยสมมติฐานต่าง ๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นพร้อมทั้งการสร้างฉากทัศน์ทั้งการลดรายจ่าย และ/หรือการเพิ่มงบประมาณที่แน่นอนของการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

พบว่า รายจ่ายสุขภาพทั้งประเทศ เท่ากับร้อยละ ๓.๕๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในปี ๒๕๔๗ จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๓.๖๔ และ ๓.๘๘ ในปี ๒๕๕๓ และ ๒๕๖๓ ตามลำดับ ฉากทัศน์ที่ ๑ กำหนดให้ มีรายได้เฉพาะที่แน่นอนจากการเก็บภาษีสุขภาพ (personal health tax) การปรับเพิ่มภาษีบุหรี่ สุรา และเบียร์ แล้วกันเงินภาษีส่วนหนึ่งให้แก่งานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นการประจำ (earmarked sin tar) ทำให้ต้องการเงินอุดหนุนจากงบประมาณประจำปีของรัฐลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสภาพปัจจุบัน ฉากทัศน์ ที่ ๒ กำหนดให้จำนวนผู้มีสิทธิประโยชน์ลดลง โดยการขยายความคุ้มครองประกันสังคมไปสู่คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน ทำให้รายจ่ายลดลง ๘,๒๑๐ ล้านบาทในปี ๒๕๔๘ ฉากทัศน์ที่ ๓ เป็นการควบรวม ฉากทัศน์ที่ ๑ และ ๒ ทำให้มีการลดรายจ่าย (โดยการขยายการคุ้มครองของประกันสังคม) พร้อมกับการเพิ่มรายรับที่แน่นอน ทำให้เกือบไม่มีความต้องการเงินอุดหนุนจากงบประมาณประจำปีเลย

ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการปฏิรูปการเงินการคลังหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มีความยั่งยืน และมีความเป็นไปได้ มี ๓ มาตรการ มาตรการที่ที่หนึ่ง การตัดโอนภาษีสรรพสามิตที่รัฐจัดเก็บได้มาเป็นการประจำตามจำนวนที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องปรับเพิ่มภาษี หรืออาจจะปรับเพิ่มภาษี ซึ่งทำให้สามารถจัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ มาตรการที่สอง การลดรายจ่ายโดยใช้ระบบประกันสังคมขยายการคุ้มครองไปสู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน ซึ่งอาจกระทำได้โดยไม่ต้องปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบจากผู้ประกันตน นายจ้าง และรัฐบาล มาตรการที่สาม ปฏิรูปพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบจากรถ มอบให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เป็นผู้จัดเก็บเบี้ยประกันภัย พร้อมกับการเก็บภาษีประจำปีจากเจ้าของรถตามกฎหมาย หรือขณะทำการจดทะเบียนรถใหม่ ทำให้สามารถบังคับใช้ กฎหมายได้เต็มที่ และคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทุกรายไม่ว่าเกิดจากรถที่มีหรือไม่มีประกันตามกฎหมาย การบริหารจัดการการเงินจึงจะเป็นไปตามเจตนารมณ์มากขึ้น

คำสำคัญ: การประมาณการในระยะยาว, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, ภาษีบุหรี่ สุรา และเบียร์, ภาษีสุขภาพ

 

Abstract

          Universal health care coverage (UC) is an important policy by the Thai government, 75 percent of population covered by the scheme, but the capitation rate did not adequately match with the utilization rate and cost of services. While rely totally on government annual budget, its long-term fiscal sustainability is a worrying problem. This study was conducted during January - December 2004 in order to provide financial reform options for UC scheme. Long term projection of total national health expenditure of Thailand between 2004 and 2020 was constructed using four models namely Demographic and Labour Model, Economic Model, National Health Expenditure Model and Government Model. Several information from various sources were retrieved, for example; population and economic information from National Economic and Social Development Boaed, labour statistic from National Statistical Office, National Health Account of Thailand 1994-2001 from International Health Policy Program and  government expenditure from National Economic and Social Development Board from International Health Policy Program and government expenditure from the Comptroller General's Department, Ministry of Finance. Moreover, many possible assumptions were applied  in these models and three scenarios of reducing UC expenditure and/or ensuring adequate budget for UC were created in order to illustrate financial implications.

             The model estimates showed that the total national health expenditure was around 3.50 percent of GDP in 2004 and it would increase, thereafter, to 3.64 and 3.88 percent of GDP in 2010 and 2030 respectively. The first scenario simulated the effects of the suggested revenue increases by intro ducing personal health tax and additional excise tax on tobacco, alcohol and beer of which some proportion automatically earmarked to UC Fund. This scenario resulted in substantial reductions in the government budget subsidy to the scheme compared to the status quo. The second scenario was produced based on assumptions that Social Security Office would expand its coverage to non-working spouse and dependents of the contributors. Its effects were that the expenditure of UC reduces by around 9,210 million baht in 2005. The first and second scenarios, combined together into the third scenario, suggested it showed that UC almost funded itself with limited additional subsidy from the government.

          Three policy recommendations on the scheme financial reform were provided. The first was an earmarked sin tax with or without increase in the sin tax rate. The second was the expansion of  social security scheme health benefit to non working spouse and dependents of the contributors, without increasing financial contribution. The last was the reform of Traffic Accident Protection Act (TAP). The Department of Land Transport would be outsourced to collect premium directly from car owners, during the mandatory annual renewal of car license, this would enhance law enforcement. The scheme would cover all victims of traffic accidents not with standing the insurance status of motor vehicles.

Key words: long term projection, universal health care coverage, earmarked sin tax, personal health tax

 

Downloads

Download data is not yet available.

Published

2019-05-25

How to Cite

Patcharanarumol, W., Cichon, M., Tangcharoensathien, V., Vasvid, C., & Tisayaticom, K. (2019). Research Series of Thai Health Care Financing: Part 1 Financial Care Coverage in Thailand - ชุดวิจัยการเงินการคลังระบบสุขภาพไทย : ตอนที่ ๑ แนวทางการปฏิรูปการเงินการคลัง หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า. Journal of Health Science of Thailand, 15(1), 17–30. Retrieved from https://thaidj.org/index.php/JHS/article/view/6712

Issue

Section

Original Article (นิพนธ์ต้นฉบับ)

Most read articles by the same author(s)

<< < 1 2 3