การเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยสูงอายุของข้าราชการทางการศึกษา จังหวัดอุตรดิตถ์
คำสำคัญ:
การเตรียมความพร้อม, วัยสูงอาย, ข้าราชการทางการศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุ และปัจจัยที่มีผลกับการเตรียมใจและ การยอมรับความชราภาพของข้าราชการทางการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการทางการศึกษาในจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ถูกสุ่มแบบหลายขั้นตอน จำนวน 393 คน รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัย สูงอายุ 5 ด้าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยสถิติ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า การเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่วัยสูงอายุใน พฤติกรรมสุขภาพปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง (mean=2.28, SD=0.41) มีการเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจ โดยมีทรัพย์สินและเงินออมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมากที่สุด ร้อยละ 58.27 รองลงมาคือการลงทุนโดยการซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล ร้อยละ 24.68 แหล่งรายได้ในอนาคตหลังเกษียณ คือจากบำเหน็จหรือบำนาญ ร้อยละ 74.05 กลุ่มตัวอย่างได้เตรียมพร้อมสำหรับผู้ดูแล ร้อยละ 61.83 จากลูกหลาน ร้อยละ 87.70 ส่วนการเตรียมใจและการ ยอมรับความชราภาพ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (mean=4.29,SD=0.87) ร้อยละ 92.88 มีการเตรียมสภาพ แวดล้อมด้วยการมีบ้านและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และในการวางแผนเตรียมตัวด้านสังคม พบว่า ร้อยละ 35.37 มีการคิดวางแผนอยู่อาศัยในภูมิลำเนาเดียวกับที่ทำงานในปัจจุบัน ส่วนกิจกรรมหลังการเกษียณที่ต้องการมากที่สุด คือ การออกกำลังกาย ร้อยละ 70.99 ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า ไม่มีตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับการ เตรียมใจและการยอมรับความชราภาพ ค่าสถิติไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (ตัวแปรได้แก่ เพศ อายุ ตำแหน่งในปัจจุบัน ระดับตำแหน่ง ประเภทหน่วยงานที่สังกัด สถานภาพสมรส สถานภาพครอบครัว รายได้ปัจจุบันสุทธิ ค่าใช้จ่ายต่อ เดือนเฉลี่ย ภาวะสุขภาพในปัจจุบัน การเตรียมผู้ดูแล การเตรียมบ้านและที่อยู่อาศัย) ประโยชน์ของการศึกษานี้ สามารถนำไปใช้ช่วยวางแผนชีวิตของข้าราชการทางการศึกษาก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุที่แท้จริง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปใช้ในการวางแผนนโยบายเพื่อรองรับสังคมสูงวัยของข้าราชการทางการศึกษาทั้งความรอบรู้ด้าน สุขภาพผู้สูงอายุ การเงิน ที่อยู่อาศัยและความพร้อมในการปรับตัวได้อย่างเหมาะสม
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

