ผลของโครงการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล: การนำร่องที่จังหวัดสระบุรี
คำสำคัญ:
ยาปฏิชีวนะ, ยาต้านจุลชีพ, เชื้อดื้อยา, พฤติกรรมการสั่งใช้ยา, การใช้ยาอย่างสมเหตุผลบทคัดย่อ
โครงการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล (Antibiotics Smart Use Project: ASU) ที่นำร่องในจังหวัดสระบุรีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสั่งใช้ยาปฏิชีวนะของบุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาลระดับชุมชนในการลดการใช้ยาปฏิชีวนะแก่ผู้ป่วยนอกที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ส่วนบน โรคท้องร่วงเฉียบพลัน และแผลเลือดออก โดยใช้ PRECEDE-PROCEED planning model เป็นกรอบแนวคิด การวิจัยนี้ใช้วิธีวิจัยกึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลของโครงการต่อทัศนะและ พฤติกรรมการสั่งใช้ยาปฏิชีวนะของบุคลากรทางการแพทย์ และต่อสุขภาพและความพึงพอใจของผู้ป่วยโรคเป้าหมายที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ ดำเนินกิจกรรมแทรกแซงและประเมินผลในโรงพยาบาลชุมชนทั้งหมด 10 แห่งในจังหวัดสระบุรี และสถานีอนามัยในสังกัดของโรงพยาบาลชุมชนทั้งหมดรวม 87 แห่ง เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนธันวาคม 2549 ถึง พฤษภาคม 2551 ผลการประเมินพบว่า (ก) บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 315 คน ที่ผ่านการอบรมและตอบแบบสอบถามมีความรู้ ความเชื่อมั่น และความตั้งใจในการไม่สั่งใช้ยาปฏิชีวนะในโรคเป้าหมายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน (p < 0.001) (ข) หลังจากดำเนินโครงการ ปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะในสถานพยาบาลลดลงร้อยละ 18-46 (ค) ร้อยละของผู้ป่วยโรคเป้าหมายที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะเพิ่ม ขึ้นจากร้อยละ 45.5 เป็น 74.7 (p < 0.001) ขณะที่ข้อมูลของจังหวัดที่เป็นกลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ (3) การติดตามผู้ป่วยโรคเป้าหมายที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะจำนวน 1,200 ราย พบ ว่า ร้อยละ 97.1 หายเป็นปรกติหรืออาการดีขึ้น และกว่าร้อยละ 90 พึงพอใจต่อผลการรักษา โครงการนำร่อง นี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจุบัน โครงการนี้ไม่เพียงแต่ขยายผลไปในหลายจังหวัดผ่านการทำงานแบบเครือข่าย แต่ยังมีความเป็นไปได้ในการเชื่อมประสานการปฏิบัติงานในพื้นที่กับนโยบายของประเทศเพื่อให้เกิดความสืบเนื่องในการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลต่อไป
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

