การศึกษาปริมาณการบริโภคโซเดียมจากการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง: การศึกษาแบบภาคตัดขวาง พ.ศ. 2565

ผู้แต่ง

  • กมลทิพย์ วิจิตรสุนทรกุล กองโรคไม่ติดต่อ
  • ราม รังสินธุ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฏเกล้า
  • บุญทรัพย์ ศักดิ์บุญญารัตน์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฏเกล้า
  • ยุภาพร ศรีจันทร์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่

คำสำคัญ:

การบริโภคโซเดียม, ค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวัน, การประเมินโซเดียมในปัสสาวะ

บทคัดย่อ

การลดค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมในประชากรลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568 เป็นหนึ่งในเก้าเป้าหมายของการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับประเทศ (9 Voluntary Global NCD Targets) ที่องค์การอนามัยโลกผลักดันการดำเนินการเพื่อลดการป่วยและลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ประเทศไทยขับเคลื่อนนโยบายลดการบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อในทุกระดับ จำเป็นที่ต้องมีข้อมูลปริมาณการบริโภคโซเดียมประชากรสำหรับการดำเนินยุทธศาสตร์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมและการดำเนินมาตรการลดการบริโภคโซเดียมอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันของประชากรอายุ 20-69 ปี ด้วยวิธีการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ทำการสำรวจตัวอย่าง (Sample Survey) ใน 5 จังหวัดคือจังหวัดลพบุรี  จังหวัดยโสธร จังหวัดนครพนม จังหวัดแพร่และจังหวัดพัทลุง สุ่มเลือกตัวอย่างแบบ stratified two-stage cluster sampling ตัวอย่างสมบูรณ์สำหรับวิเคราะห์ผล 1,499 ตัวอย่าง จัดทำค่าถ่วงน้ำหนักประชากรด้วยวิธี design weight และปรับความครบถ้วนด้วยวิธี post-stratification ผลการศึกษาพบประมาณการสัดส่วนประชากรใน 5 จังหวัดสำรวจมีการบริโภคโซเดียมสูงกว่า 2,000 มิลลิกรัมซึ่งเป็นปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวันเท่ากับ 82.4 และค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันจากปัสสาวะ 24 ชั่วโมง รวม 5 จังหวัดประมาณ 3,850.5 มิลลิกรัม (SE 105.3) เพศหญิงพบประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันสูงกว่าเพศชายเล็กน้อย 3,865.0 (SE 89.4) และ 3,835 (SE 174.3) ตามลำดับ กลุ่มอายุ 20-29 ปี มีค่าประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันสูงที่สุด 4,509.1 (SE 332.4) ลดลงเมื่อกลุ่มอายุสูงขึ้นจนถึงกลุ่มอายุ 60-69 ปี เท่ากับ 3,355.1 (SE 102.5) จังหวัดพัทลุงมีการบริโภคโซเดียมต่อวันสูงที่สุด 4,880 มิลลิกรัม (SE 352.4) รองลงมาคือจังหวัดยโสธร 4,0871 มิลลิกรัม (SE 157.4), จังหวัดนครพนม 3,773.2 มิลลิกรัม (SE 221.6), จังหวัดลพบุรี 3,706.7 มิลลิกรัม (SE 202.1) และจังหวัดแพร่ 2,771.7 มิลลิกรัม (SE 71.1) ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ปัจจัยทำนายโอกาสการเกิดการบริโภคโซเดียมสูงที่มีการบริโภคโซเดียมเท่ากับหรือมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวันพบเพศหญิงมีแนวโน้มและความเสี่ยงที่จะบริโภคโซเดียมมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( AOR 1.308, 95% CI = 1.003-1.705  p <0.048) และเพศหญิงมีโอกาสเสี่ยงบริโภคโซเดียมมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวันสูงเป็น 1.3 เท่าเมื่อเทียบกับเพศชาย

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-02-28

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้