การศึกษาเปรียบเทียบการประเมินความรู้สึกเท้าผู้ป่วยเบาหวานระหว่างเครื่องตรวจการประเมินความรู้สึกเท้าผู้ป่วยเบาหวานแบบดิจิทัล (DDFM) กับ Monofilament

ผู้แต่ง

  • นพพล ธาดากุล
  • ณรงค์ ผิวผ่อง
  • แพรวพรรณ เกษียร

คำสำคัญ:

การตรวจเท้าเบาหวาน, เครื่องตรวจเท้าเบาหวานแบบดิจิทัล, โมโนฟิลาเมนต์

บทคัดย่อ

                   ภาวะเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมเป็นภาวะแทรกช้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลบริเวณเท้า ลุกลามจนอาจต้องสูญเสียนิ้วหรือเท้า จึงต้องมีการตรวจประเมินเท้าผู้ป่วยทุกปีด้วย monofilament แต่การประเมินดังกล่าวมีเพียง 3 ระดับ ไม่สามารถบอกได้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลงไปจากเดิมได้ จึงได้ประดิษฐ์นวัตกรรม “เครื่องตรวจการประเมินความรู้สึกเท้าผู้ป่วยเบาหวานแบบดิจิทัล” ซึ่งสามารถบอกพยาธิสภาพว่าดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิมมากน้อยเพียงใด โดยการประดิษฐ์จากหลักการกระตุ้นกล้ามเนื้อผ่านผิวหนัง ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าที่ปรับค่าความต่างศักย์ได้มากระตุ้นผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าที่วางบนแผ่นทองแดง     2 ชั้ว ทำให้เกิดการรับรู้ว่ามีกระแสไฟฟ้าผ่านเข้ามาบริเวณฝ่าเท้าผ่านเส้นประสาทส่วนปลายเท้า ใช้ระดับความต่างศักย์ไม่เกิน 5 โวลต์ ไม่ทำให้เกิดความร้อนหรือ อันตรายต่อผู้ป่วย วิธีการศึกษาเป็นการศึกษาแบบทดลองเปรียบเทียบแบบเฉพาะเจาะจง โดยการประเมินเท้าผู้ป่วยเบาหวานที่มาตรวจคลินิกตรวจเท้าเบาหวานประจำปี ประเมินเป็นระดับความเสี่ยงต่ำ เสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูงแล้วนำผู้ป่วยมาประเมินการรับความรู้สึกด้วยเครื่องตรวจการประเมินความรู้สึกเท้าผู้ป่วยเบาหวานแบบดิจิทัล วัดระดับ ค่าความต่างศักย์ต่ำสุดที่ฝ่าเท้าผู้ป่วยเริ่มรับรู้ได้ในเท้าแต่ละข้างเป็นตัวเลขดิจิทัลละเอียดถึงระดับมิลลิโวลต์ นำค่าที่ได้มาเปรียบเทียบกัน วิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณนา ผลการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวาน 178 ราย ชาย 63 ราย (ร้อยละ 35.4) หญิง 115 ราย (ร้อยละ 64.5) ผู้ป่วยเบาหวานที่ตรวจด้วย monofilament พบว่า กลุ่มความเสียงต่ำ มีค่าเฉลี่ยความ ต่างศักย์ไฟฟ้าต่ำสุด เท้าขวา เฉลี่ย 1.12±0.60 โวลต์ เท้าซ้าย เฉลี่ย 1.10±0.61 โวลต์ กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง มีค่าเฉลี่ยความต่างศักย์ไฟฟ้าต่ำสุด เท้าขวา เฉลี่ย 1.30±0.62 โวลต์ เท้าช้าย 1.32±0.65 โวลต์        กลุ่มความเสี่ยงสูง มีค่าเฉลี่ยความต่างศักย์ไฟฟ้าต่ำสุด เท้าขวา เฉลี่ย 1.57±0.73 โวลต์ เท้าช้าย เฉลี่ย 1.75±0.67 โวลต์ โดยค่าเฉลี่ยความต่างศักย์ไฟฟ้าต่ำสุดของเท้าแต่ละข้างใกล้เคียงกัน จึงสรุปได้ว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่มีความเสี่ยงสูงกว่า จะมีค่าความต่างศักย์ต่ำสุดที่รับรู้ว่ามีกระแสไฟฟ้าบริเวณฝ่าเท้าสูงกว่าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า จากการตรวจด้วยเครื่องตรวจการประเมินความรู้สึกเท้าผู้ป่วยเบาหวานแบบดิจิทัล แสดงว่าวิธีการตรวจแบบใหม่นี้สามารถแยกความแตกต่างของผู้ป่วยระดับความเสี่ยงต่างกันได้ละเอียดกว่า ทำให้สามารถใช้ประเมินการเปลี่ยนแปลงพยาธิสภาพเส้นประสาทเท้าได้ดีกว่าและละเอียดกว่าการตรวจด้วย monofilament แบบเดิม

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-10-31

วิธีการอ้างอิง