การรับรู้บทบาทและบทบาทที่ปฏิบัติจริงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการควบคุมโรคมาลาเรีย จังหวัดยะลา

ผู้แต่ง

  • คันธวุฒิ พลอยอุบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกาบัง ยะลา
  • เพชรน้อย สิงห์ช่างชัย คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • สาวิตรี ลิ้มชัยอรุณเรือง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

คำสำคัญ:

การรับรู้บทบาท, บทบาทที่ปฏิบัติจริง, การควบคุมโรคมาลาเรีย, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงบรรยายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจระดับการรับรู้บทบาท และบทบาทที่ปฏิบัติจริงของเจ้า-หน้าที่สาธารณสุขในการควบคุมโรคมาลาเรีย ในจังหวัดยะลา รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติบทบาทดังกล่าว ประชากรเป้าหมายคือ เจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง 17 คน และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย ในจังหวัดยะลา 81 คน รวม 98 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม 2 ชุด คือ 1) การ รับรูบทบาทและบทบาทที่ปฏิบัติจริงของเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง และ 2) การรับรู้บทบาทและบทบาทที่ปฏิบัติจริงของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาของเครื่องมือชุดที่ 1 และ 2 เท่ากับ 0.94 และ 0.92 ทดสอบความเที่ยงของเครื่องมือโดยใช้วิธีทดสอบซ้ำ ได้ค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ชุดที่ 1 และ 2 เท่ากับ 0.81, 0.80 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ คำนวณค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

การวิจัย พบว่า การรับรู้บทบาทในการควบคุมโรคมาลาเรียของเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงทั้งโดยรวม (equation 3.57, σ 0.45) และรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นด้านควบคุมเชื้อมาลาเรีย (equation 4.03, σ 0.53) อยู่ในระดับมาก ส่วนการรับรู้บทบาทของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย โดยรวม (equation 3.09, σ 0.84) และรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง

บทบาทที่ปฏิบัติจริงในการควบคุมโรคมาลาเรียของเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงโดยรวม (equation 1.31, σ 0.21) และรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นด้านควบคุมเชื้อมาลาเรียอยู่ในระดับมาก ส่วนบทบาทที่ปฏิบัติจริงของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย โดยรวม (equation 1.15, σ 0.49) และรายด้านอยู่ในระดับปานกลางเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง มีปัญหาและอุปสรรคในเรื่องประชาชนไม่ให้ความร่วม มือเป็นลำดับแรก (76.47%) แต่เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยมีปัญหาและอุปสรรคในเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบเป็นลำดับแรก (32.10%) สำหรับอุปสรรคอันดับรองลงมาของทั้งสองกลุ่มรายงานเหมือนกัน คือ งบประมาณไม่เพียงพอ (58.82%; 18.52%) และขาดบุคลากร (47.06%; 17.28%)

ผลการวิจัยครั้งนี้สนับสนุนการจัดสรรภาระหน้าที่ในการควบคุมโรคมาลาเรียและการพัฒนาการประสานงานระหว่างบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างเป็นระบบ รวมทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้ประชากรในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานควบคุมโรคมาลาเรีย

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-01-18

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้