ไอโอดีนในปัสสาวะของนักเรียนระดับชั้นประถม จังหวัดหนองบัวลำภู

ผู้แต่ง

  • จันทร์ฉาย คำแสน ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 อุบลราชธานี
  • จินตนา ว่องวิไลรัตน์ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 อุบลราชธานี
  • วิทยา อินทพรหม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู


คำสำคัญ:

ภาวะขาดไอโอดีน, ไอโอดีนในปัสสาวะ, นักเรียน

บทคัดย่อ

ภาวะขาดไอโอดีนยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก ประมาณว่าประชากรกว่าพันล้านคน โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาประสบปัญหานี้ สถานการณ์ของโรคขาดสารไอโอดีนในประเทศไทย ได้จัดตั้งระบบการเฝ้าระวังโรค ขาดสารไอโอดีน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ตรวจหาระดับไอโอดีนในปัสสาวะในกลุ่มเด็กอายุ 1-14 ปี พ.ศ. 2551-2552 สำรวจระดับไอโอดีนในปัสสาวะหญิงตั้งครรภ์ปี พ.ศ. 2554-2555 สำรวจความเสี่ยงต่อภาวการณ์ขาดสารไอโอดีนหลายกลุ่มอายุในปี พ.ศ. 2556 การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาไอโอดีนในปัสสาวะของ นักเรียนระดับชั้นประถมจังหวัดหนองบัวลำภู จากการเก็บตัวอย่างปัสสาวะ 2 ครั้ง จำนวน 174 ตัวอย่าง ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2558 พบว่า สัดส่วนของระดับไอโอดีนจากการเก็บตัวอย่างครั้งที่ 1 และ 2 มีเด็กที่ได้รับสารไอโอดีนพอเพียง (100-199 ug/L) ร้อยละ 23.2 และ 30.4 มีเด็กที่ขาดสารไอโอดีนในทุกระดับ (<99 g/L รวมกันร้อยละ 10.5 และ 10.4 และเด็กที่มีสารไอโอดีนเกินในทุกระดับ (>200 g/L) ร้อยละ 66.3 และ 58.2ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเด็กที่ได้รับสารไอโอดีนพอเพียงมีประมาณร้อยละ 30.0 ซึ่งการได้รับไอโอดีนมากเกินไปทำให้เกิดกลุ่มอาการเช่นเดียวกับภาวะขาดไอโอดีน โดยทำให้เกิดอาการคอพอก ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ หรือทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบและมะเร็งต่อมไทรอยด์ ดังนั้นควรให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาในกลุ่มเด็กที่มีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาของภาวะโภชนาการของสารไอโอดีนทั้งในด้านได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอ หรือได้รับ สารไอโอดีนมาก เกินไป อย่างต่อเนื่อง และอย่างยั่งยืนต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-01

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้