ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ของผู้ผ่านการบำบัดสารเสพติดในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ ในจังหวัดอุดรธานี
คำสำคัญ:
ผู้ติดยาเสพติด, การบำบัดรักษาและฟื้นฟู, หน่วยบริการระดับปฐมภูมิบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลโครงการติดตามการฟื้นฟูผู้ผ่านการบำบัดสารเสพติดในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมทั้งวิเคราะห์หาความสัมพันธ์และปัจจัยทำนายที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ผ่านการบำบัดสารเสพติดครบ 1 ปี โดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายศึกษา กลุ่มตัวอย่างผู้ผ่านการบำบัดรักษาจากการติดตามของรพ.สต. จำนวน 1,156 คน โดยใช้แบบสอบถามคุณภาพชีวิตมีค่าความเชื่อมั่น (alpha) 0.8 เก็บข้อมูลระหว่าง มีนาคมถึงกันยายน 2557 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วย สถิติเชิงพรรณนา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่ามัธยฐานสถิติเชิงอนุมาน และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ด้วยการทดสอบไคสแควร์ และ muliple logistic regression อธิบายด้วยค่า OR และ 95%CI กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เพศชาย ร้อยละ 98.6 อายุ 15-19 ปี ร้อยละ 36.8 รายได้ต่อเดือน 3,000 บาท หลังการรักษาครบ 1 ปีพบว่า ได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัว ร้อยละ 88.7 ระยะเวลาที่รักษายาเสพติด ต่ำกว่า 3 ปี ร้อยละ 99.8, 3 ปีขึ้นไป ร้อยละ 0.2 ได้รับการติดตาม 1 ครั้งขึ้นไป ร้อยละ 93.0 สารเสพติดที่ใช้ย้อนหลัง 1 เดือน ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 50.9 ใช้สารเสพติดเพื่อให้มีกำลังทำงาน ร้อยละ 50.9 หลังการรักษาครบ 1 ปี พบว่า ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมมาก ร้อยละ 58.4 สุขภาพกายดี ร้อยละ 90.8 จิตใจดี ทำงานหรือเรียนได้ปกติ ร้อยละ 98.0 เลิกสารเสพติดได้ ร้อยละ 90.0 เสพติดซ้ำ ร้อยละ 10.0 และพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และสามารถทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ผ่านการบำบัดสารเสพติดเมื่อครบ 1 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เรียงตามลำดับ ได้แก่ พฤติกรรมวิถีชีวิตมีผลต่อ คุณภาพชีวิต 5.2 เท่า (CI: 0.257-0.770) ความรู้สึกเครียดอยากเสพมีผลเป็น 2.8 เท่า (CI: 0.665-0.784)เลิกสารเสพติดได้ มีผลเป็น 2.8 เท่า (CI: 0.230-0.572) ชีวิตหลังการบำบัดแย่ลง มีผลเป็น 2.3 เท่า (CI: 0.913- 0.991) เมื่อควบคุมตัวแปรอื่นแล้ว ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ผ่านการบำบัด สารเสพติดต่ำกว่า 2 เท่า ได้แก่กลุ่มอายุ 20-24 ปี กลุ่มว่างงาน การไม่สนใจสิ่งแวดล้อม รายได้ต่ำกว่า 5,000 บาท ค่า BM น้อยกว่า 18 หรือตั้งแต่ 23 ขึ้นไป เพศ การศึกษา สภาพจิตใจ สภาพร่างกายอ่อนแอ จำนวนครั้งที่ได้รับการติดตาม และการช่วยเหลือของครอบครัว สรุปโดยรวมแสดงให้เห็นว่า การติดตามดูแลผู้ผ่านการรักษาการติดยาเสพติด 1 ปี โดยการดูแลช่วยเหลือของครอบครัวและการมีส่วนร่วมของชุมชน สามารถพัฒนาให้ผู้ป่วยเสพติดมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

