การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานระบบฐานข้อมูลสาธารณสุขจังหวัดพังงา
คำสำคัญ:
การพัฒนารูปแบบ, ระบบฐานข้อมูลสาธารณสุขบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินงานระบบฐานข้อมูลและศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสาธารณสุขจังหวัดพังงา ศึกษาระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2555 ถึง 31 มีนาคม 2558 โดยเก็บข้อมูลแบบผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ บุคลากรสาธารณสุข ทุกระดับ ประกอบด้วยบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล ทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง จำนวน 524 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลเชิงปริมาณซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปและข้อคิดเห็นต่อการพัฒนาระบบข้อมูล และ (2) แบบเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ สอบถามความคิดเห็นต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสาธารณสุข โดย วิธีการจัดการความรู้ด้วยการจัดวงสนทนาและทบทวนหลังจากการประชุม ด้วยเครื่องมือ AAR (after action review)ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (288 คน หรือร้อยละ 55.0) มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสาธารณสุขด้านบุคลากร (people ware) อยู่ในระดับปานกลาง ด้านอุปกรณ์ (hardware) อยู่ในระดับปานกลาง 265คน (ร้อยละ 50.6) ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (software) อยู่ในระดับปานกลาง 350 คน (ร้อยละ 66.8) ด้านระบบการบริหารจัดการ (management system) อยู่ในระดับมาก จำนวน 235 คน (ร้อยละ 44.8) ด้านการนำองค์กร (lead-ership) อยู่ในระดับปานกลาง จำนวน 253 คน (ร้อยละ 48.3) และด้านความสำเร็จของงานข้อมูลข่าวสาร อยู่ในระดับมาก จำนวน 212 คน (ร้อยละ 40.5) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาระบบฐาน-ข้อมูลสาธารณสุข โดยการวิเคราะห์เส้นทาง (path analysis) พบว่า (1) ความสำเร็จของการจัดการข้อมูลสาธารณสุขได้รับอิทธิพลทางตรง จากปัจจัยการนำองค์กร 0.476 ปัจจัยด้านบุคคล 0.233 และปัจจัยด้านระบบโปรแกรม 0.206โดยสามารถร่วมกันทำนายความสำเร็จของการจัดการข้อมูลสาธารณสุข ได้ร้อยละ 59.2 และ (2) ความสำเร็จของการ จัดการข้อมูลสาธารณสุข ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยด้านบุคคล (People ware) และปัจจัยด้านระบบโปรแกรม (Soft-ware) ผ่านปัจจัยการบริหารจัดการ (Management) เท่ากับ 0.144 และ 0.204 ตามลำดับ และความสำเร็จของการ จัดการข้อมูลสาธารณสุข ยังได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากปัจจัยด้านอุปกรณ์ และการบริหารจัดการผ่านปัจจัยการนำองค์กรเท่ากับ 0.101 และ 0.282 ตามลำดับ กล่าวโดยสรุป การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลสาธารณสุขจังหวัดพังงา ผลของการคำนวณค่าสัมประสิทธิ์ถดถอยพหุคูณพบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ถดถอย ทุกตัวมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 แสดงว่า กรอบความคิดได้รับการยืนยันจากข้อมูลเชิงประจักษ์ที่รวบรวมได้จากกลุ่มประชากรศึกษา กล่าวคือ สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มประชากรที่ศึกษา ดังนั้นแบบจำลองใหม่จึงสามารถใช้อธิบายกรอบความคิดวิจัยดังกล่าวข้างต้น ได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรกำหนดให้มีการใช้ประโยชน์จากการประมวลผลฐานข้อมูลในการติดตามกำกับงานตามตัวชี้วัดในทุกระดับภายใต้ข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

