ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง จำนวน 600 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วย คุณลักษณะของบุคคล ภาวะสุขภาพ และคุณภาพชีวิต วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยลอจิสติกทวิ ผลการ วิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอยู่ในระดับสูง ภาวะสุขภาพไม่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต ปัจจัยที่มีความ สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติคือ อายุ การศึกษา และสถานภาพสมรส โดยพบว่า ผู้อายุที่มีอายุระหว่าง 60-69 ปี มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตดีเป็น 1.465 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป (OR:1.465, 95% CI:1.016-2.114) ผู้สูงอายุที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษาขึ้นไปมีโอกาสมีคุณภาพชีวิตดีเป็น 3.121 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษา (OR:3.121, 95% CI:1.665-5.851) และ ผู้สูงอายุที่มีสถานภาพสมรสคู่ มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตดีเป็น 1.756 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีสถานภาพสมรสเดี่ยว (OR:1.756, 95% CI:1.297-2.575) ดังนั้น จึงควรมีการวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาคุณภาพ-ชีวิตของผู้สูงอายุในระดับเขตพื้นที่โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างอายุ การศึกษา และสถานภาพสมรสให้สามารถดำรงชีวิตในบั้นปลายได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์