การพัฒนาอุปกรณ์ยึดตำแหน่งสำหรับการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) โรงพยาบาลรามาธิบดี
คำสำคัญ:
การตรวจทางรังสีวิทยาวินิจฉัย, นวัตกรรม, การศึกษาพัฒนาเชิงทดลอง, การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, การพัฒนางานตามภารกิจหลักสู่การวิจัยบทคัดย่อ
การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ให้ภาพที่แยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อได้ชัดเจน มีความแม่นยำสูง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ใช้เวลาตรวจอย่างน้อย 30 นาที ในขณะตรวจ ต้องอยู่นิ่งในท่าพิเศษของแต่ละการตรวจ ทำให้ผู้รับบริการเมื่อยล้าและอึดอัด การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ยึดตำแหน่งในการตรวจผู้ป่วยด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ นำไปดำเนินการที่ศูนย์รังสีวิทยา อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดีในช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ถึงเมษายน 2558 โดยมีการปรับปรุงและพัฒนาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ประชากรคือการดำเนินงานบริการ ตรวจ MRI แต่ละครั้ง เริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มให้บริการจนเสร็จสิ้นการดูแลรวมทั้งสิ้น 7,540 ครั้ง กลุ่มตัวอย่างคือ ประชากรหลังการพัฒนา รุ่นละ 100 ครั้ง รวม 500 ครั้ง คัดเลือกแบบเจาะจงครอบคลุมการตรวจบริเวณศีรษะ ลำคอ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ หัวเข่า ข้อเท้า เท้า และอื่นๆ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา และการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า มีการปรับปรุงและพัฒนารวม 5 รุ่น ระยะเวลาในการจัดท่าตรวจและการกำทอนภาพซ้ำต่อราย ลดจาก 40 นาที เป็น 20 นาที 10 นาที และ 0 นาที ตามลำดับ สามารถควบคุมเวลาการตรวจได้ดีขึ้น ลดการใช้เทปกาวลงปีละมากกว่า 80 ม้วน อุปกรณ์ยึดตำแหน่งที่พัฒนาขึ้น เป็นวัสดุเหลือใช้จากหน่วยงานต่างๆ สามารถปรับขนาดให้เหมาะกับส่วนที่ตรวจ มีความสะดวก ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการเก็บรักษาและการดูแล ใช้ได้กับบริเวณหรืออวัยวะที่หลากหลาย ประหยัดแรงงานเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ มีความพึงพอใจ มีต้นทุนการผลิตน้อยกว่า 500 บาท ทุกสถานบริการสามารถผลิตใช้ได้เอง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

