การตรวจอัลตร้าซาวด์ในผู้ป่วยที่มีการอุดตันของระบบทางเดินน้ำดี ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี
คำสำคัญ:
การตรวจอัลตร้าซาวด์, การอุดตันของระบบทางเดินบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยประยุกต์แบบไปข้างหน้านี้ เพื่อดูความสามารถของการตรวจอัลตร้าซาวด์หาตำแหน่งของการอุดตันของระบบทางเดินน้ำดี และวินิจฉัยโรคที่เป็นสาเหตุของการอุดตัน โดยประเมินความแม่นยำเปรียบเทียบกับการวินิจจัยหลังผ่าตัด ผลการติดตามและทบทวนปรากฏว่าผู้ป่วยที่นำมาศึกษาได้ มีจำนวน 90ราย และพบว่า sensitivity, specificity และ accuracy ในการตรวจหาตำแหน่งของการอุดตัน ร้อยละ 98.8, 85.7 และ 97.3 และในการวินิจฉัยสาเหตุของการอุดตัน ร้อยละ 97.6, 85.7 และ 96.7 ตามลำดับ ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับรายงานการศึกษาอื่น แสดงว่า การตรวจคัดกรองในการวินิจฉัยแยกโรคของระบบทางเดินน้ำดีที่เกิดจากการอุดตัน กับที่ไม่ได้เกิดจากการอุดตัน ด้วยการตรวจอัลตร้าซาวด์ในโรง-พยาบาลเจ้าพระยายมราช สามารถให้ข้อมูลที่ใช้ในการวางแผนการรักษาต่อไปรวมทั้งการประเมินผู้ป่วยก่อน ผ่าตัดได้อย่างเพียงพอและมีความแม่นยำสูง ช่วยลดการส่งผู้ป่วยทำการตรวจระบบทางเดินน้ำดีโดยการฉีดสารทึบรังสีเข้าท่อน้ำดี ซึ่งต้องแทงเข็มผ่านตับ (PCT) หรือต้องส่องกล้องผ่านทางลำไส้เล็ก (ERCP) และ/หรือทำการตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ได้ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดภาวะ แทรกซ้อนที่อาจมีอันตรายอย่างรุนแรง จากวิธีการตรวจเหล่านั้น จากการแพ้สารทึบรังสี และอันตรายจากรังสีรวมทั้งเพื่อช่วยลดค่าใช่จ่ายที่ไม่จำเป็น และลดความลำบากยุ่งยากในการส่งต่อผู้ป่วยด้วย ยกเว้นอาจจะส่งตรวจด้วยวิธีเหล่านั้นเฉพาะผู้ป่วยบางรายที่การตรวจอัลตร้าซาวด์ไม่สามารถให้ข้อมูลที่เพียงพอได้เท่านั้น ในรายงานนี้ยังได้สรุปเทคนิคในการตรวจอัลตร้าซาวด์ หลักเกณฑ์ในการตัดสินว่ามีการอุดตันของระบบทางเดินน้ำดี การตรวจหาตำแหน่งของการอุดตัน และการวินิจฉัยโรคที่เป็นสาเหตุของการอุดตันในเชิงปฏิบัติจากการวิจัยครั้งนี้ และเปรียบเทียบกับรายงานอื่นๆ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

