การใช้สารเคมีในการเกษตรและแนวทางการลดการใช้สารเคมีของเกษตรกรบ้านขิงแคง ตําบลเขวาไร่ อําเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ปี 2557

ผู้แต่ง

  • อนงค์ลักษณ์ เคนสุโพธิ์ โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม
  • ประณีต ประสาระเอ โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม
  • ชนะชัย ประทุมมัง โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม

คำสำคัญ:

การลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช, การตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด, สารอินทรีย์ทดแทน

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้อันตรายในการใช้สารเคมีทางการเกษตรและหาแนวทางการลดและเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตรของเกษตรกรบ้านขิงแคง ตำบลเขวาไร่ อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้ระเบียบวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้ร่วมวิจัยได้แก่ เกษตรกรทั้งผู้ใช้และไม่ใช้สารเคมี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมอดิน นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสาธารณสุข และพยาบาลวิชาชีพ รวม 48 คน มีขั้นตอนในการศึกษาคือ (1) สำรวจพฤติกรรมเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีและตรวจเลือดเกษตรกรผู้สมัครใจในการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด สัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม และสังเกต แล้วร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา เสวนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ กำหนดปัญหาและเป้าหมายร่วมกันของผู้ร่วมวิจัย (2) วางแผนกำหนดแนวทางในการลด ละ เลิกการใช้สารเคมี (3) ลงมือปฏิบัติ และ (4) ประเมินผล ผลการศึกษาพบว่า การเสวนา การแลกเปลี่ยนข้อมูลจากการสำรวจ สัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม และสังเกต รวมทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ร่วมวิจัย ทำให้เห็นประเด็น ปัญหาร่วมคือ การใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การป้องกันตนเองไม่เพียงพอ ทำให้ได้รับสารเคมีส่งผลต่อสุขภาพในระยะเฉียบพลัน ได้แก่ ผื่นคัน แสบจมูก ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คอแห้งหรือนอนหลับไม่สนิท เป็นต้น จากการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 41 คนพบว่ามีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือด ระดับเสี่ยงจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.1 และไม่ปลอดภัย 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.2 ซึ่งบ่งชี้ถึงการตกค้างของสารเคมีเกษตรในร่างกาย นอกจากนั้นยังพบว่ามีสารเคมีตกค้างในดิน ดินเสื่อมสภาพ ปลูกพืชไม่ได้ในบางพื้นที่ รวมทั้งปริมาณสัตว์น้ำ กบ เขียด ไส้เดือน และแมลงตามธรรมชาติลดลง จึงเกิดความตระหนักและกำหนดเป้าหมายในการลด ละ เลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร ดังนี้ (1) การกำจัดหอยเชอรี่ด้วยวิธีการทางกายภาพ (2) ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชด้วยการใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่น (3) นำร่องให้มีพื้นที่ในการปลูกข้าวแบบไม่ใช้สารเคมีแปลงละ 1-2 ไร่ และ (4) ผู้ร่วมวิจัยที่เป็นเกษตรกรผู้รับจ้างฉีดพ่นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการฉีดพ่นด้วยการใช้อุปกรณ์ป้องกันการสัมผัสสารเคมีอย่างเคร่งครัด และจูงใจผู้อื่นให้หันมาใช้ชีวภาพโดยลดค่าจ้างในการฉีดพ่นชีวภาพ ผลการดำเนินการทำให้ลดการใช้และรายจ่ายในการใช้ปุ๋ยและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเกษตรกรผู้เลิกใช้สารเคมีกำจัดหอยมีสุขภาพดี การล้างพิษทำให้ผลเลือดเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดระดับไม่ปลอดภัยลดลง ในผืนนามีปริมาณไส้เดือนเพิ่มขึ้น และผลผลิตดีขึ้นโดยที่เกษตรกรลงทุนน้อยลง

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-11-22

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ