ความรอบรู้ดิจิทัลที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
การปฏิบัติงาน, ความรอบรู้ดิจิทัล, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านบทคัดย่อ
ความรอบรู้ดิจิทัล หรือทักษะความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นทักษะด้านดิจิทัลพื้นฐานที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการปฏิบัติงาน การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรอบรู้ดิจิทัลที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 325 คน ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา การทดสอบสถิติไค-สแควร์ การทดสอบของฟิชเชอร์ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการศึกษาพบว่า ความรอบรู้ดิจิทัล และการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.61, SD = 0.71) ( ค่าเฉลี่ย= 3.63, SD = 0.62) ขณะที่ความรอบรู้ดิจิทัลมีความสัมพันธ์ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง (r=.651) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=<0.01) และ จากการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ พบว่าตัวแปรความรอบรู้ดิจิทัล ด้านการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงดิจิทัล สามารถร่วมอธิบายความแปรปรวนของการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่า R-square เท่ากับ 0.454 เมื่อพิจารณารายตัวแปรพบว่า ความรอบรู้ดิจิทัลด้านการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (β = 0.675, p < 0.01) มีผลกระทบเชิงบวกต่อการปฏิบัติงานของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการการฝึกอบรมควรเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงานจริง ร่วมกับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่าง อสม. รุ่นใหม่และรุ่นเก่า เพื่อสร้างการเรียนรู้ร่วมกันและส่งเสริมการปรับตัวเข้าสู่การปฏิบัติงานในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2564). คู่มือกระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1188920211018040126.pdf
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2554). คู่มือ อสม. ยุคใหม่.https://hss.moph.go.th/fileupload_doc/2021-09-07-11-21-93471516.pdf
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2567). รายงานจำนวน อสม. แยกตามอำเภอ.https://www.thaiphc.net/phc/phcadmin/administrator/Report/OSMRP000S8.php
ฉลองรัฐ ทองกันทา และนิพนธ์ แก้วต่าย. (2565). การสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านยุค 4.0 อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 17(1), 30–40.
ดวงกมล ก๊กอึ้ง และ จรัสพงศ์ คลังกรณ์. (2567). นโยบายการพัฒนาบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 8(1), 440-452.
ธีร์ปนกรณ์ ศุภกิจโยธิน. (2567). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทการจัดบริการปฐมภูมิขั้นพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เขตสุขภาพที่ 3. วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคเหนือ), 34(3), 53-63.
ปวีณา กุมาร. (2568). ประสิทธิผลของการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการปฏิบัติงานตามแบบรายงานผลการปฏิบัติงาน (อสม.1) เพื่อขอรับค่าป่วยการ อสม. อำเภอเมืองปทุมธานีอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น, 6(1), 144–160.
พันธะกานต์ ยืนยง, ญาณันธร กราบทิพย์, กนกกร จงประสิทธิ์, และคณะ. (2567). ทุนทางจิตวิทยาเชิงบวกในการใช้งานแอพพลิเคชั่น “อสม. ออนไลน์” ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดชลบุรี. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 17(1), 113-126.
พิทักษ์ ศรีสุข และ วิชัย จันทร์ประดิษฐ์. (2563). การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานสาธารณสุขชุมชน. วารสารสาธารณสุขชุมชน, 29(2), 123-135.
พิเชษฐ์ ไกรวงศ์. (2568). ประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาศักยภาพการใช้งาน Smart อสม. ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อำเภอแกลง จังหวัดระยอง. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 21(1), 73-82.
ไพฑูรย์ เสริมศิริมงคล, พระปลัดประพจน์ อยู่สำราญ, และ พระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี. (2567). อสม. 4.0: การพัฒนาศักยภาพเพื่อการเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านต้นแบบในตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร. วารสารศิลปศาสตร์ราชมงคลสุวรรณภูมิ, 6(3), 864-877.
ภัทร์พิชชา ครุฑางคะ, กษิดิศ ครุฑางคะ, จงจิตร รัยมธุรพงษ์, และ เต็มดวง บุญเปี่ยมศักดิ์. (2565). การเปรียบเทียบความรอบรู้ด้านดิจิทัลของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 15(2), 251-265.
รัฐพล กองพอด และประสงค์ชัย เศรษฐสุรวิชญ์. (2567). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับเทคโนโลยีของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในจังหวัดกาฬสินธุ์: กรณีศึกษาแอปพลิเคชันสมาร์ท อสม. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 10(3), 545–566.
วิเชียร เทียนจารุวัฒนา, กิตติพร เนาว์สุวรรณ์, และ สายสมร วชิระประพันธ์. (2564). แนวทางการพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) คุณภาพเพื่อสนับสนุนกำลังคนด้านสาธารณสุขสำหรับระบบสุขภาพในอนาคต. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 30(2), 353-366.
สมถวิล วิจิตรวรรณา. (2565). สถิติความสัมพันธ์: เลือกใช้อย่างไร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 8(2), 1-15.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2565). ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่สิบสาม พ.ศ. 2566 – 2570. https://www.nesdc.go.th/download/Plan13/Doc/Plan13_DraftFinal.pdf.
ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน. (2565). กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย 4 แนวทาง พัฒนา “อสม.”. https://www.gcc.go.th/2022/10/13/กระทรวงสาธารณสุข-เปิดเ-115/.
Best, J. W. (1981). Research in education. Prentice-Hall.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities.
Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคเหนือ)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

